CGH รุกลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

พฤหัส ๒๒ เมษายน ๒๐๒๑ ๑๖:๔๓
บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ตกลงที่จะเข้าลงทุน 25% ในกลุ่มบริษัท คริปโตมายด์ ซึ่งประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับประเทศ โดยการเข้าลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลงทุนรุกตลาดธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเข้าสู่การลงทุนยุคใหม่ รูปแบบใหม่ พร้อมนำเทคโนโลยีที่สามารถช่วยยกระดับโลกแห่งการเงินให้เข้าสู่ความพร้อมสำหรับอนาคตยุคดิจิทัล

นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ ตกลงที่จะเข้าลงทุนร้อยละ 25 ในกลุ่มบริษัท คริปโตมายด์ ซึ่งประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับประเทศ โดยมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญ ในการเป็นที่ปรึกษาให้แก่ Exchange และโปรเจคมากมายระดับโลก รวมถึงคร่ำหวอดในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล มีเครือข่ายด้านสื่อทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงมีสื่อและชุมชนด้านการลงทุนคริปโตที่มีผู้ติดตามมากที่สุด ทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมมากกว่า 500,000 คน และเป็นผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดและเจ้าแรกของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยหลังได้รับใบอนุญาต คาดว่ามีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล 500 ล้านบาท โดยมีผลิตภัณฑ์อย่าง DeFi Yield Fund ที่มีกลยุทธ์ในการสร้างรายได้จาก Decentralized Finance (DeFi) ซึ่งเน้นย้ำที่จะสร้างกลยุทธ์รูปแบบใหม่ที่มีความพิเศษที่แตกต่างจากสินทรัพย์อื่น เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากโลกสินทรัพย์ดิจิทัล

ปัจจุบัน CGH ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน ประกอบด้วยธุรกิจหลักทรัพย์ : บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ CGS และธุรกิจบริหารจัดการกองทุน : บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) หรือ MFC โดยการลงทุนของ CGH ในครั้งนี้ ถือเป็นการเดินหน้าเข้าลงทุนครั้งแรกในโลกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อบริหารธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ภายใต้การลงทุนของบริษัทฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เป็นบริษัทที่ CGH เข้าไปลงทุน มีพัฒนาการที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกสายงานธุรกิจ โดยดำเนินธุรกิจตามแผนงานบริการธุรกิจแบบครบวงจร สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดธุรกรรมหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นมากว่าเท่าตัวในรอบปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน อยู่ที่อันดับ 15 จากอันดับที่ 32 จาก 38 บริษัทหลักทรัพย์ ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอยู่ในอันดับ Top 3 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 จากอันดับ 23 จาก 40 บริษัท และมีสัดส่วนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 20% ต่อปี โดยปีที่ผ่านมา บล. คันทรี่ กรุ๊ป มีรายได้ธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.50 เมื่อเปรียบเทียบจากปีก่อน รายได้ธุรกรรมซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.92 เมื่อเปรียบเทียบจากปีก่อน และได้รับรางวัล "TFEX Agent of The Year 2020" จากตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 ปีซ้อน

นายทอมมี่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ได้เล็งเห็นถึงโอกาสการลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยดำเนินการปรับเปลี่ยนมุ่งเดินหน้าสู่ธุรกิจดิจิทัลแบบครบวงจร ปรับโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ โดยการนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาประยุกต์พัฒนาองค์กรในรูปแบบทางด้านการบริการทางการเงินออนไลน์ เพื่อพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันนำมาซึ่งการเติบโตของธุรกิจในภาพรวม บริษัทฯ เริ่มลงทุนด้านระบบดิจิทัลมาปรับใช้ทั้งในด้านการลงทุน พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีแพลตฟอร์มการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตและความต้องการลงทุนที่ขยายตัวสู่ทางเลือกใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงเทคโนโลยีด้านงานสนับสนุนบริการ โดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสนับสนุนให้บริษัทฯ ขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ในแบบดิจิทัล จึงเลือกเข้าไปลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเสริมธุรกิจอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยมีการนำเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ Fintech เข้ามาปรับใช้ใน CGS Mobile Trading Application ให้เป็น Super App ที่ใช้งานง่าย สะดวก รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ถูกลง พร้อมครอบคลุมทุกบริการ โดยคาดว่าจะเปิดตัว Mobile Trading Application เฟสแรก ในไตรมาส 2 ที่จะถึงนี้ โดยลูกค้าสามารถดูพอร์ตการลงทุนทุกประเภทที่มีอยู่ สามารถซื้อ-ขายธุรกรรมต่างๆ อาทิ หุ้น อนุพันธ์ ตราสารหนี้ กองทุน ได้ที่เดียว ตลอดเวลาทำการ อีกทั้งยังสามารถดู บทวิเคราะห์หรือคำแนะนำในการเลือกลงทุนตามสถานการณ์ต่างๆ และมีแผนจะเปิดเฟสสอง สำหรับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศสำหรับบุคคลธรรมดา ต่อไป

สำหรับ อนาคต พยายามหาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามแผนงาน และยังมีนโยบายขยายทีมงานด้านการตลาดเพื่อเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกด้วย

ในการเข้าลงทุนในบริษัทธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ในครั้งนี้ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มประโยชน์การลงทุนของลูกค้าสูงสุด และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนในยุคดิจิทัล อีกทั้ง บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าธุรกิจและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ต่อไป

ที่มา: บางกอก ออทัม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4