มหาวิทยาลัยมหิดลลุยขับเคลื่อนความยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอกผ่าน "นโยบายมหาวิทยาลัยเชิงนิเวศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน" พร้อมสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก

พฤหัส ๒๗ พฤษภาคม ๒๐๒๑ ๑๓:๕๖
มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศไทยที่ผลิตบัณฑิตคุณภาพในหลากหลายสาขาอาชีพสู่สังคมเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศด้วยปณิธานสำคัญของการเป็น "ปัญญาของแผ่นดิน" นำมาซึ่งการตั้งเป้าหมายที่จะเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก ด้วยเป้าหมายอันท้าทายนี้ ทางมหาวิทยาลัยฯ จึงได้วางแผนนโยบายเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำมหาวิทยาลัยที่ยั่งยืนอย่างเต็มภาคภูมิด้วยการสร้างพื้นฐานที่แรง มั่นคง และยั่งยืนผ่านยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน พ.ศ. 2563 - 2566 โดยมี "นโยบายมหาวิทยาลัยเชิงนิเวศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน" หรือ "Mahidol Eco University and Sustainability Policy" ภายใต้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตาม 17 เป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : 17 SDGs) ที่จัดทำขึ้นโดยองค์กรสหประชาชาติ (United Nations : UN) ซึ่งเป็นเป้าหมายโลกแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนตั้งแต่ปี 2558-2573

โดย "นโยบายมหาวิทยาลัยเชิงนิเวศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน" หรือ "Mahidol Eco University and Sustainability Policy" ภายใต้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่มหาวิทยาลัยมีความพร้อมในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัยฯ อย่างมีคุณภาพจะถูกดำเนินการผ่านกลยุทธ์สำคัญตามนโยบาย 3 กลยุทธ์ ได้แก่

1.) กลยุทธ์การพัฒนารากฐานการเติบโตที่ยั่งยืน (Sustainability Growth) จะถูกนำไปประยุกต์ใช้กับทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัยผ่านการประสานข้อมูลร่วมกับองค์กร ศาสตร์ และแนวคิดจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับโลกเพื่อให้ได้แบบแผนในการประยุกต์ใช้ที่มีคุณภาพ เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้ อันได้แก่

  • การพัฒนางานวิจัยที่สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
  • การพัฒนา และส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสังคมตามนโยบาย Thailand 4.0
  • การพัฒนาการศึกษาสร้างความรู้ความเข้าใจแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน และหลักเศรษฐกิจพอเพียง
  • ความมั่นคง และเติบโตด้านเศรษฐกิจ
  • การบริหารองค์กรที่เป็นผู้นำด้านความยั่งยืน

2.) กลยุทธ์การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน (Sustainable Resources Use) ที่มีแนวทางพร้อมเป้าหมายที่เน้นการปฏิบัติในเชิงสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน พร้อมสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้ดังนี้

  • การเปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัยเป็นองค์กร Net Zero Emissions ในปี 2030
  • การปรับเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยเชิงนิเวศน์ ที่มีการใช้ทรัพยากร อย่างคุ้มค่า และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-Efficiency)

3.) กลยุทธ์การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน (Sustainable Society) ที่มุ่งเน้นตัวบุคคลเพื่อให้เกิดการปฏิบัติในระดับปัจเจกไปจนถึงกลุ่มสังคม โดยใส่ใจในพฤติกรรมส่วนบุคคลและองค์รวมที่จะผลักดันให้เกิดการแบ่งปันข้อมูล ประสบการณ์ ความรู้ แนวคิด หรืออื่นๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาในครั้งนี้ ผ่านรูปแบบกิจกรรมดังนี้

  • การส่งเสริมโครงการ/กิจกรรมเพื่อสังคม (Social Responsibility) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม
  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคลากร และนักศึกษาของมหาวิทยาลัย เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาที่ยั่งยืน
  • การส่งเสริมความเท่าเทียมกัน (Equity) ของทุกคน
  • การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน
  • การส่งเสริมความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัย
  • การสร้างบรรยากาศสังคมในมหาวิทยาลัยที่มีความสุขสำหรับ บุคลากร และนักศึกษา

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ขึ้นกล่าวถึงที่มา ความสำคัญ และเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญครั้งนี้ รวมถึงการบรรยายเรื่อง "บทบาทของสถาบันการศึกษาต่อการขับเคลื่อนนโยบายสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน" โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชล บุนนาค ผู้อำนวยการโครงการวิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ทำให้เห็นถึงกระบวนการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายที่วางแผนไว้อย่างชัดเจนขึ้น และการกล่าวถึงนโยบายมหาวิทยาลัยเชิงนิเวศและการพัฒนาอย่างยั่งยืนมหาวิทยาลัยมหิดล โดยรองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มองเห็นภาพของการดำเนินงานควบคู่กับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันจะนำมาซึ่งการดำเนินงานตามนโยบายอย่างมีคุณภาพร่วมกัน

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลจะร่วมมือกับองค์กรในทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐหรือเอกชนในทุกระดับทั้งในและต่างประเทศเพื่อการแบ่งปันและนำมาซึ่งข้อมูลอันเป็นประโยชน์สำหรับ "นโยบายมหาวิทยาลัยเชิงนิเวศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน" อันจะนำมาซึ่งความพร้อมที่เต็มไปด้วยคุณภาพสำหรับการผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ที่วางไว้ภายในปีพ.ศ. 2566 ด้วยการมุ่งเน้น "การพัฒนาระบบการบริหารจัดการ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และความสามารถในการแข่งขันของชาติ รวมทั้งคำนึงถึงการสร้างโอกาสความเท่าเทียมทางสังคม" ตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน โดยหวังว่าแผนนโยบายฯ ในครั้งนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับขอบเขตที่กว้างขึ้น เช่น สังคม หรือประเทศชาติ ในภายภาคหน้าได้อีกด้วย

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud