โดยทางกลุ่มบริษัทได้ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจจำนวน 2 เครื่องให้แก่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากยอดผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำที่สูงถึงหลายพันราย และได้ส่งเครื่องช่วยหายใจไปยังโรงพยาบาลบางบัวทอง โรงพยาบาลบางกรวย โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลปากเกร็ด และโรงพยาบาลสุทธาเวช แห่งละ 1 เครื่อง รวมถึงโรงพยาบาลปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน และโรงพยาบาลสนามบุษราคัมที่อิมแพค เมืองทองธานี
ก่อนหน้านี้ ทางกลุ่มบริษัทแพนเธราได้ทำการบริจาคชุดป้องกันส่วนบุคคลแบบเต็มตัวและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อหลายพันชิ้นให้แก่โรงพยาบาลข้างต้นหลายแห่ง และในระหว่างการส่งมอบของบริจาคนั้น พอล เฮย์เวิร์ด ได้รับทราบมาว่าทางโรงพยาบาลต่าง ๆ ยังคงขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในช่วงวิกฤตเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง
"ผมทราบมาว่า มีผู้ป่วยหลายรายที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู แต่ไม่สามารถทำได้เพราะว่าทางโรงพยาบาลไม่มีเครื่องช่วยหายใจเพียงพอ" เฮย์เวิร์ด กล่าว "ถ้าวอร์ดของคุณสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 10 เตียง คุณก็ต้องมีเครื่องช่วยหายใจทั้งหมด 10 เครื่อง นี่เป็นแนวทางที่เรายึดถือเพื่อพยายามที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยทุกคนไว้"
ณ วันที่ 25 พฤษภาคม ผู้ป่วยโควิด-19 ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยจำนวน 1,187 ราย อยู่ในภาวะวิกฤต โดยมีผู้ป่วยจำนวน 399 ราย ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเนื่องจากยังคงมีการรายงานถึงยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ประมาณ 2,000-3,000 เคสต่อวัน เครื่องช่วยหายใจจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและควรจัดหาอย่างเร่งด่วน หลังจากที่เฮย์เวิร์ดทำการปรึกษาหารือกับแพทย์และพยาบาลแล้ว เขาพบว่า การบริจาคเครื่องช่วยหายใจจำนวน 10 เครื่อง จะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างน้อย 15 รายต่อเดือน
แม้ว่าเครื่องช่วยหายใจจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้อัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ลดลง แต่มีบริษัทหรือบุคคลเพียงไม่กี่รายที่สามารถสนับสนุนเงินก้อนใหญ่เช่นนี้ได้ และแม้แต่กลุ่มบริษัทแพนเธราเอง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นเจ้าของธุรกิจกฎหมายและการตลาดรายใหญ่ก็ยังต้องการพันธมิตร จึงได้ร่วมกับจูราสสิก เมาน์เทน รีสอร์ท แอนด์ ฟิชชิ่ง ปาร์ค ในการบริจาคครั้งนี้
ทอม บรูมเฮด ผู้ร่วมลงทุนจูราสสิก รีสอร์ท กล่าวว่า "ประเทศไทยเปิดกว้างให้นักธุรกิจต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจรีสอร์ทในประเทศ เราจึงต้องการที่จะตอบแทนความใจดีนั้น ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หลายบริษัทกำลังพบกับวิกฤตและย่ำแย่กว่าที่เราเห็น ทางเราได้พูดคุยกับพอล (เฮย์เวิร์ด) เกี่ยวกับการลงมือทำอะไรสักอย่างที่จะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นได้ อาจเป็นการแจกจ่ายอาหารหรืออะไรก็แล้วแต่ และในท้ายที่สุด เราก็ตัดสินใจที่จะทำการบริจาคเครื่องช่วยหายใจ"
ในช่วงการระบาด ทางจูราสสิก รีสอร์ทเองก็สูญเสียแหล่งรายได้หลักซึ่งก็คือนักท่องเที่ยวต่างชาติไป แต่เรายังมีพนักงานชาวไทยมากกว่ายี่สิบราย ที่เรายังคงว่าจ้างและต้องการให้ทุกคนได้ทำงานกับเราต่อไป การบริจาคเครื่องช่วยหายใจเป็นความมุ่งมั่นของเราที่จะให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ด้วยความหวังที่ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจะสิ้นสุดลง และประเทศไทยจะได้กลับมาเปิดรับนักตกปลาจากทั่วโลกอีกครั้ง
"เพื่อให้เราสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ต่อไป เราจะต้องผนึกกำลังกับผู้ที่มีความคิดเหมือน ๆ กันเพื่อเกื้อหนุนด้านการเงิน" เฮย์เวิร์ดกล่าว ซึ่งเขาก็ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการปิดสถานบริการของรัฐบาล อันทำให้ธุรกิจภายใต้บริษัทของเขา ที่ร่วมก่อตั้งกับไมเคิล โดเฮอร์ตี ต้องหยุดชะงักลง "เราได้พูดคุยกับทางเจ้าของของจูราสสิก รีสอร์ท และพวกเขากล่าวว่า พวกเขาชื่นชอบสิ่งที่กลุ่มบริษัทแพนเธรากำลังทำอยู่และถามเราว่าพวกเขาจะสามารถร่วมกับเราด้วยได้หรือไม่ เมื่อเราพูดถึงเครื่องช่วยหายใจ พวกเขาก็ตอบตกลงทันที"
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทแพนเธรา
กลุ่มบริษัทแพนเธรา เป็นบริษัทเอกชนร่วมก่อตั้งระหว่างเฮย์วาร์ดและไมเคิล โดเฮอร์ตี เมื่อกว่า 17 ปีที่แล้ว โดยเป็นการบูรณาการบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญหลากสาขา ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม สถานบันเทิงยามค่ำคืน โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ การลงทุน และการจัดการต่าง ๆ ปัจจุบันมีการดำเนินกิจการในกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา และเกาะสมุย
เกี่ยวกับ จูราสสิก รีสอร์ท แอนด์ ฟิชชิ่ง พาร์ค
จูราสสิก รีสอร์ท แอนด์ ฟิชชิ่ง พาร์ค ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้ว และอยู่ภายใต้ทีมผู้บริหารใหม่จากอังกฤษมานับตั้งแต่ปี 2563 รีสอร์ทแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 25 ไร่ โดยตั้งอยู่ในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
ที่มา: มิดัส คอมมิวนิเคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล