ผศ.ดร.ลินดา กล่าวว่า มาตรการเยียวยาที่ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้ทำเพิ่มเติมนั้นมีหลายส่วนด้วยกัน เช่น การจัดตั้งกองทุน "มหาวิทยาลัยราชภัฏสมเด็จเจ้าพระยา สู้ภัย COVID-19" และยกเว้นการจัดเก็บค่าหอพักภายในมหาวิทยาลัย จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือด้าน การเงินแก่บุคลากรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 รวมไปถึงการแจกหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ให้แก่นักศึกษาและบุคลากร และยังจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสก่อโรคโควิด 19 อย่างเป็นกิจลักษณะ
"อย่างที่บอกเราไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาแค่เฉพาะในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ยังคำนึงถึงประชาชนและชุมชนที่อยู่รอบรั้วบ้านสมเด็จฯ มาตรการเยียวยาภัยโควิด 19 จึงกระจายออกไปไม่ว่าจะเป็นโครงการช่วยเหลือชุมชน 40 ตำบล ที่เรารับผิดชอบอยู่ การให้คำปรึกษา และแนะนำการจัดการเรียนการสอนออนไลน์แก่โรงเรียนในชุมชน โครงการจิตอาสาส่งอาจารย์และนักศึกษาลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องการ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 รวมถึงการส่งไปช่วยอำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนที่ไอคอนสยาม และยังส่งนักศึกษาและบัณฑิตด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพร่วมเป็นจิตอาสาที่โรงพยาบาลสนามใน กทม. ซึ่งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาทั้งหมด ทางมหาวิทยาลัยได้อัดฉีดงบประมาณเพิ่มอีก 10 ล้านบาท รวมเป็นกว่า 40 ล้านบาทแล้ว" อธิการบดี มบส. ระบุ
ผศ.ดร.ลินดา กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ได้เร่งดำเนินการตามแผนรณรงค์ให้บุคลากรและนักศึกษา เข้ารับการฉีดวัคซีนอย่าง ต่อเนื่อง เบื้องต้น อาจารย์ บุคลากร และพนักงานในสังกัด มบส. ให้ความร่วมมือเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสก่อโรคโควิด 19 แล้ว กว่าร้อยละ 90 โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่จัดสรรวัคซีนผ่านโรงพยาบาล ศิริราช ระหว่างวันที่ 17-20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในส่วนของให้นักศึกษาจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลศิริราชเบื้อง 3,000 คน ระหว่างวันที่ 21-23 มิถุนายนนี้ และจะดำเนินการฉีดอย่างต่อเนื่องจนครบทั้งมหาวิทยาลัย
ที่มา: เอ.ยู.คอมมิวนิเคชั่น