3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ประเมินอ้อยขั้นต้นรอบการผลิตปีนี้ อยู่ที่ 90 ล้านตันอ้อย หลังประกันราคารับซื้อที่ราคา 1,000 บาทต่อตัน ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส.

พุธ ๓๐ มิถุนายน ๒๐๒๑ ๑๐:๐๕
3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ประเมินผลผลิตอ้อยขั้นต้นฤดูหีบหน้า (2564/2565) คาดมีปริมาณเพิ่มเป็น 90 ล้านตัน หลังประกาศการันตีราคารับซื้ออ้อยขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อตันอ้อย ที่ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. เพื่อสร้างความมั่นใจด้านรายได้และจูงใจให้ชาวไร่ขยายการปลูกอ้อย พร้อมระบุสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดฉุดการบริโภคน้ำตาลภายในประเทศหดตัว

นายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ 57 โรงงานได้ทำสำรวจปริมาณผลผลิตอ้อยขั้นต้นในช่วงฤดูการเพาะปลูกปี 2564/2565 คาดมีผลผลิตอ้อยเข้าหีบเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 90 ล้านตันอ้อย สูงกว่ารอบการผลิตปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 66.67 ล้านตันอ้อย โดยมีปัจจัยหลักมาจากสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเพาะปลูกจากปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น ประกอบกับการสร้างความเชื่อมั่นด้วยการประกันราคารับซื้ออ้อยให้แก่ชาวไร่ในราคาขั้นต่ำที่ 1,000 บาทต่อตัน ณ ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเพาะปลูก นอกจากนี้ มาตรการส่งเสริมของภาครัฐที่ให้ความสำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อตัดอ้อยสด ทำให้ชาวไร่อ้อยมีรายได้จากการเพาะปลูกอ้อยเพื่อส่งมอบให้แก่โรงงาน รองรับความต้องการบริโภคน้ำตาลที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์โควิด19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น แม้ประเทศไทยในฐานะผู้ส่งออกอันดับ 2 ของโลก ได้คาดการณ์ปริมาณอ้อยเพิ่มขึ้นก็ตาม เนื่องจากบราซิล ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก ต้องเผชิญกับปัญหาจากสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตอ้อย ประกอบกับการคาดการณ์ว่า บราซิลจะนำผลผลิตอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลเพิ่มขึ้น จะส่งผลสะท้อนต่อสภาวะราคาน้ำตาลตลาดโลกในทิศทางที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง

สำหรับการบริโภคน้ำตาลภายในประเทศในรอบการผลิตปี 2563-2564 (ตุลาคม 2563 - กันยายน 2564) คาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 2.2 ล้านตัน จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะมีการบริโภคอยู่ที่ 2.4 ล้านตัน หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 2 และ 3 เป็นผลให้การบริโภคภายในประเทศหดตัวลง โดยพบว่า ในช่วงเดือน 8 เดือน (ตุลาคม 2563 - พฤษภาคม 2564) มีการปริมาณขายน้ำตาลภายในประเทศได้ 1.5 ล้านตันเท่านั้น

"โรงงานน้ำตาลจัดสรรปริมาณน้ำตาลไว้สูงเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค มิให้เกิดภาวะขาดแคลน ภายในประเทศ แต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้การบริโภคลดลงมากและต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และจากปริมาณการบริโภคในประเทศที่ลดต่ำกว่าที่คาดไว้ โรงงานจะนำน้ำตาลส่วนที่เหลือจากการขายในประเทศส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศแทน เพื่อบริหารซัพพลายให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย" นายปราโมทย์ กล่าว

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud