นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า " บริษัทฯ มีความยินดีที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากการขายและให้บริการของบริษัทฯ กว่า 397.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรขั้นต้น 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 26% และมีกำไรสุทธิ 47.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 18 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น อัตรากำไรสุทธิของ SABUY ขยายตัวกว่า 100% เป็น 11.7% จากอัตรากำไรสุทธิ 5% ในไตรมาส 2 ปีก่อน เนื่องจาก SABUY ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการต้นทุนในส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหาร ทำให้สามารถสร้างผลประกอบการได้ดี และรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขายสินค้าและบริการชำระเงินต่างๆใน Ecosystem ของกลุ่มสบาย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 SABUY มีจำนวนตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเท่ากับ 5,482 ตู้ ซึ่งบริษัทฯ ปรับตัวตามนโยบายภาครัฐในการปิดสถานบริการเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 อย่างต่อเนื่อง การประสบปัญหาการเติมสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า ที่ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่มชะลอตัวจึงมีการย้ายตู้ตามเหมาะสม แม้ว่าบริษัทฯ จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาด COVID-19 แต่บริษัทฯ ยังคงมีการศึกษาสินค้าที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีผู้ประกอบการติดต่อเข้ามาจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแล้วจะมีการเปิดตัวขยายตู้เพิ่มเติมต่อไป ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ เริ่มมีส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท เอ ที พี เซอร์วิส จำกัด (ร้านชิปป์ สไมล์) ร่วม 2 ล้านบาท นอกจากนี้ SABUY ยังสร้างรายได้จากการให้บริการการฝากเงินและโอนเงิน (Banking Agent) ที่เพิ่มมากขึ้น จากช่องทางชิปป์สไมล์ และ Express service พันธมิตรต่างๆ อีก 4,000 จุด รองรับพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ลดการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสาขาและตู้ ATM ของธนาคาร รวมถึงรายได้ค่าบริการ สื่อโฆษณา บนตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณการให้บริการ และจำนวนตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้น
นายชูเกียรติ กล่าวเสริมว่า "สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2564 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่า รายได้รวมจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตรา 25% โดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจตู้เติมเงิน ธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ธุรกิจศูนย์อาหารและ POS และ ธุรกิจใหม่ E-Money และชิปป์สไมล์ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ความร่วมมือจาก บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) ในการขยายการติดตั้งตู้เวนดิ้ง แมชชีน ภายใต้กลุ่มพาร์ทเนอร์ของทั้ง 2 บริษัท และในธุรกิจการผลิตบัตรพลาสติก อีกด้วย
นอกจากนี้ SABUY Group ได้ขยายธุรกิจ ใน SABUY Ecosystem อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนและขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในหลากหลายกิจการ อาทิ เช่น ธุรกิจ CRM & Loyalty Program, ธุรกิจ Payment System, ธุรกิจ E-Commerce, ธุรกิจ Supply Chain ซึ่งเริ่มต้นในธุรกิจอาหารเป็นลำดับแรก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem ทั้งแบบ Online และ Offline เพื่อสร้างผลประกอบการให้เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง
บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ "SABUY"
บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ "SABUY" บริษัทเทคโนโลยีโดยคนไทย เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2559 เปิดให้บริการด้านธุรกรรมทางการเงิน (Fintech Platform) โดยพัฒนารูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินให้เข้ากับความต้องการของคนไทยภายใต้ระบบนิเวศของสบาย เทคโนโลยี รองรับตั้งแต่ระดับชุมชนสู่มวลชนโดยนักพัฒนาระบบของตนเอง ทั้งเปิดกว้างสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลายเข้าสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มสบายฯ จากระบบตู้เติมเงินออนไลน์ (Top-up machine), ระบบตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending machine), ระบบจัดการศูนย์อาหารและระบบจัดการร้านค้าปลีก (Food court system and POS) และระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM and Loyalty program) และขยายตัวอย่างรวดเร็วไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet), การโอนเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ, บริการธุรกิจเฟรนไชส์ไปรษณีย์เอกชนและร้านสารพัดบริการ ภายใต้ชื่อ ชิปป์สไมล์ พร้อมล่าสุดก้าวไปสู่ระบบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เริ่มให้บริการซื้อสินค้า วัตถุดิบ อาหาร (Supply chain) จากบริการทั้งหมดนี้กลุ่มสบายฯ วางเป้าหมายจะสามารถให้บริการรองรับผู้ใช้งาน 50 ล้านคนหรือมากกว่า 50 ล้านธุรกรรมต่อเดือน
ปัจจุบัน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 1,182.25 ล้านบาท และทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1,026.50 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 1,026.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท(www.sabuytech.com)
ที่มา: แบรนด์ เวลท์