บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) (JP) เตรียมขายหุ้น IPO ในตลาด mai ไม่เกิน 115 ล้านหุ้น หลัง ก.ล.ต.นับ 1 ไฟลิ่ง

ศุกร์ ๒๐ สิงหาคม ๒๐๒๑ ๑๐:๓๒
บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JP โชว์ศักยภาพทีมวิจัยพัฒนาต่อยอดงานวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ รับแผนผลักดันการเติบโตด้วยกลยุทธ์นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท หรือ Own Brand เร่งสร้างการรับรู้และขยายช่องทางจำหน่าย Multi-Channel Marketing ในกลุ่มประเทศ CLMV+T ชูฐานการผลิตโรงงานทั้ง 2 แห่ง ที่ได้มาตรฐาน GMP พร้อมขยายฐานลูกค้า OEM รับออเดอร์การผลิตเพิ่มเติม เพื่อก้าวสู่บริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิตและจัดจำหน่ายยา เวชภัณฑ์และอาหารเสริมของไทย ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. นับ 1 แบบคำขออนุญาตเสนอเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 115 ล้านหุ้น ภายหลังได้รับการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีจุดแข็งทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถนำองค์ความรู้ตามหลักวิทยาศาสตร์มาพัฒนาเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่ดีขึ้นและสนับสนุนกลยุทธ์องค์กรที่มีเป้าหมาย ต้องการผลักดันการเติบโตด้วยผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ (Own Brand) โดยมีแผนงานนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพสูงของบริษัทฯ เช่น ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงสุขภาพและความงาม รวมถึงใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ด้านธุรกิจยาและสมุนไพรมานานกว่า 70 ปี เพื่อรองรับเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาใช้ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย จากการเลือกใช้ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นทางเลือกในการป้องกันและรักษาโรคมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้นำศักยภาพการผลิตของโรงงานทั้ง 2 แห่ง ที่กรุงเทพฯและจังหวัดลำพูน ที่มีการรับรองมาตรฐานการผลิตสำหรับการผลิตยา (GMP PIC/s) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข สอดคล้องและทัดเทียมกับมาตรฐานของสหภาพยุโรปและมาตรฐาน GMP มาสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบและครบวงจรเพื่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีความหลากหลายทั้งขนาด ส่วนผสม และรูปแบบ ทำให้ JP สามารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้บริโภคเข้าสู่สังคมแห่งการดูแลสุขภาพ ช่วยสนับสนุนแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มรับจ้างผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ลูกค้า (OEM) ซึ่งบริษัทฯ ให้การบริการที่ครอบคลุม ตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาสินค้า การคิดค้นและพัฒนาสูตร การขอทะเบียนตำรับยาหรือการจดแจ้งเลขสารบบอาหาร (เลข อย.) การออกแบบบรรจุภัณฑ์และควบคุมการผลิตให้มีคุณภาพ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JP กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์สุขภาพในเชิงดูแลป้องกันและรักษาโรค ภายใต้ตราสินค้าบริษัทฯ ประกอบด้วย (1)กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาผู้ป่วย ภายใต้ตราสินค้า COXTM ได้แก่ ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม ยาน้ำแก้ไข้และยาคุมกำเนิด (2)ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติ ที่ใช้ทั้งภายในและภายนอก ภายใต้ตราสินค้า สุภาพโอสถTM เช่น ยาเม็ดสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ยาแก้ไข้ ยาบำรุงโลหิต ยาขับลม ยาแคปซูลผสมเถาเอ็นอ่อน ยาหม่อง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันสกัดเย็น 4 ชนิด และสาหร่ายสไปรูริน่า (3)กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงสุขภาพและความงาม ภายใต้ตราสินค้า EVITONTM ได้แก่ ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์วิตามินรวม ผลิตภัณฑ์สารสกัดน้ำมันธรรมชาติ (4)กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ภายใต้ตราสินค้า JSPTMที่ระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ ตั้งแต่ร้อยละ 70-95 ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย รับความต้องการใช้ในครัวเรือนจนถึงกลุ่มอุตสาหกรรม และ (5) ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เป็นการจัดซื้อเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาเพื่อจำหน่ายแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายก้าวสู่บริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิตและจัดจำหน่ายยา เวชภัณฑ์และอาหารเสริม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านแนวทางการตลาดมุ่งสร้างตราสินค้าของตัวเองให้เข็มแข็งและขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้มีความหลากหลาย (Multi -Channel Marketing) ทั้งร้านขายยาทั่วไป ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง และช่องทางออนไลน์ (Online Channel) ในมาร์เก็ตเพลส เช่น Shopee Lazada เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทั่วถึง รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ผ่านรูปแบบแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ

นางสาวจิรดา แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน JP กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2561-2563) บริษัทฯ สามารถผลักดันการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขาย 3 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 348.88 ล้านบาท 360.69 ล้านบาท และ 455.64 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งตลอดระยะที่ผ่านมาที่บริษัทฯ ได้มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ Own Brand ทำให้มีสัดส่วนรายได้ปรับตัวดีขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 21-25% และยังช่วยส่งเสริมความสามารถการทำกำไรขั้นต้นที่ดีกว่าการรับจ้างผลิต OEM ทำให้กำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือทำได้ 12.39 ล้านบาทในปี 2561 เพิ่มเป็น 23.57 ล้านบาทในปี 2562 และในปี 2563 เติบโตเพิ่มเป็น 31.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 3.52 ร้อยละ 6.44 และร้อยละ 6.72 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยลบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 94.81 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.48 ล้านบาท

นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจาก บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JP ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 115 ล้านหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยจะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายตลาด การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ การปรับปรุงและขยายโรงงานทั้ง 2 แห่ง ส่วนที่เหลือนำไปชำระเงินกู้สถาบันการเงินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานต่อไป ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับ 1 แบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า บริษัทฯ มีศักยภาพและความพร้อมรุกขยายตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งในเชิงดูแลป้องกันและการรักษา ด้วยกลยุทธ์นำเสนอนวัตกรรมที่มีคุณภาพสูง ในกลุ่มยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของตัวเองพร้อมแผนทำตลาดสร้างการรับรู้ในตราสินค้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายและขยายช่องทางการจำหน่ายผ่าน Online เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ตลอดจนแผนขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงนำความสามารถด้านการผลิตของโรงงานทั้ง 2 แห่งเข้าช่วยผลักดันฐานลูกค้า OEM เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๘ Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง