Piny ซึ่งเกิดและเติบโตในออสเตรเลีย แต่ครอบครัวของเธอเป็นผู้ลี้ภัยจากกัมพูชา กล่าวว่า "ฉันมักเห็นตัวเองอยู่บนเส้นทางการเป็นหุ้นส่วนอยู่เสมอ"
การคว้าปริญญาจาก UTS เปิดประตูสู่โอกาสมากมาย เธอได้ทำงานกับ King & Wood Mallesons ก่อนที่จะถูกทาบทามให้มาทำงานฝ่ายบริการทางการเงินระหว่างประเทศของ CBA ในฮ่องกง
แต่หลังจากที่ได้รู้จักกับ Cambodian Children's Fund (CCF) เมื่อปี 2562 และได้เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ เธอเชื่อว่าความรู้ความสามารถของตัวเองจะมีประโยชน์มากกว่าสำหรับประเทศกำลังพัฒนา
"ฉันเห็นถึงผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงที่ CCF ได้ทำให้เกิดขึ้น และฉันรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ และครอบครัว ซึ่งครอบครัวของฉันหรือตัวฉันเองก็อาจเป็นเช่นนั้นหากไม่ได้รับโอกาส" เธอกล่าว
เมื่อปี 2563 เธอเดินทางออกจากฮ่องกงหลังจากอยู่มานาน 6 ปี และย้ายไปกัมพูชา เธอวางแผนว่าจะใช้เวลาหนึ่งปีเป็นอาสาสมัครให้กับ CCF เพื่อช่วยให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงบริการสุขภาพ การศึกษา ทักษะชีวิต และการฝึกงาน พร้อมกับเรียนรู้รากเหง้าวัฒนธรรมกัมพูชาของเธอ
ในกรุงพนมเปญ เธอเป็นผู้นำในการกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดด้านการกำกับดูแล ซึ่งช่วยให้คณะกรรมการ CCF ทั่วโลกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เธอยังทำงานในส่วนของกลยุทธ์และโครงการระดมทุน และในเดือนมีนาคม 2563 เธอกลายเป็นชาวกัมพูชาคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการ CCF ประจำฮ่องกง
แม้จะไม่ได้ทำงานเป็นนักกฎหมายแล้ว แต่ความรู้ที่ได้รับจาก UTS และประสบการณ์ด้านกฎหมายองค์กรก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เธอสามารถสร้างคุณูปการต่อ CCF
เธอระบุว่า "[การมี] วิธีที่เป็นระบบระเบียบในการค้นหาและประมวลข้อมูล [และการเป็นนักคิดเชิงวิพากษ์] ช่วยฉันอย่างมาก อีกทั้งยังสร้างรากฐานให้กับฉันในการเรียนรู้และเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทระหว่างประเทศ"
ในช่วงปลายปี 2563 เธอได้เป็นที่ปรึกษาอาสาสมัครของโครงการ Bluetribe 2020 Young Entrepreneur Incubation Programme ของ UNDP กัมพูชา โดยเธอได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการแก้ปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายสัญญาและข้อตกลงของผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท รวมถึงการจดทะเบียนธุรกิจ
"โครงการนี้ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เป็นเวลา 6 เดือน ฉันอาสาเข้ามาเป็นที่ปรึกษาเพราะพวกเขามีศักยภาพสูงมากแต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ" เธอกล่าว
จากอาชีพนักกฎหมายที่ประสบความสำเร็จในฮ่องกงสู่งานด้านมนุษยธรรมในกรุงพนมเปญ เธอกล่าวว่าหลักสูตรปริญญาตรีสาขาธุรกิจและนิติศาสตร์ของ UTS ช่วยเปิดประตูสู่โอกาสมากมาย
"สิ่งที่ฉันเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยเป็นรากฐานที่สำคัญของสิ่งที่ฉันกำลังทำในตอนนี้" เธอกล่าว
"ฉันใช้ทักษะทั้งหมดที่เรียนรู้มาในเส้นทางอาชีพใหม่นี้ ทั้งทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการสื่อสารจาก UTS รวมถึงทุกทักษะที่เก็บเกี่ยวขณะทำงานเป็นนักกฎหมาย และทุกทักษะที่ได้เรียนรู้จากการทำงานอาสาสมัคร บวกกับการกลับสู่รากเหง้าวัฒนธรรมของฉันเอง"
ในวันที่ 7 กันยายน UTS จะจัดกิจกรรมออนไลน์ "My Future Career in Law" เพื่อเจาะลึกคณะนิติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย และเผยให้เห็นว่าปริญญาสาขากฎหมายจะพาคุณไปได้ไกลแค่ไหน กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน UTS Virtual Open Week ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ uts.edu.au/virtual-open-week
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งซิดนีย์ (UTS) ตั้งอยู่ใจกลางนครซิดนีย์ เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำของออสเตรเลีย ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการนำนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการสอนและการวิจัย รวมถึงเป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นในด้านอุตสาหกรรม UTS มีนักศึกษามากกว่า 40,000 คน และครองอันดับ 1 ในกลุ่มมหาวิทยาลัยที่อายุน้อยในออสเตรเลียจากการจัดอันดับของ QS ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ uts.edu.au
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1594996/Piny_Ly.jpg
คำบรรยายภาพ: Piny Ly ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย UTS