หลังจากเปิดสาขาแรกในปี 2016 เบสได้ขยายสาขาที่สองไปที่ใจกลางสาทรในปีถัดมา ในปี 2018 เบสได้ชนะรางวัล 'ยิมที่ดีที่สุดในเอเชีย' ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่นำชื่อเสียงของแวดวงฟิตเนสไทยไปยังเวทีนานาชาติ รวมถึงในปีนั้น เบสยังได้ขยายสาขาที่สาม ไปใจกลางแยกราชประสงค์อีกด้วย
ปี 2019 เป็นอีกปีแห่งความสำเร็จ เบสได้เปิดตัว เทคโนโลยีเพื่อบันทึกพัฒนาการการออกกำลังกายของผู้ใช้บริการ 'เบสไลน์'
จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด ธุรกิจฟิตเนสได้รับผลกระทบอย่างหนักตั้งแต่ปี 2020 เบสได้ปรับรูปแบบการให้บริการให้เข้ากับสถานการณ์ โดย ขยายไปยังแพลทฟอร์มออนไลน์อย่าง 'เบส เอนี่แวร์ (BASE Anywhere)' ที่มีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกใช้บริการ ออกกำลังกายออนไลน์ในขณะที่ฟิตเนสและยิมยังปิดให้บริการ
"มันเป็น 5 ปีที่เยี่ยมมาก และผมภูมิใจกับสิ่งที่ทีมของเราได้ทำเร็จภายในช่วงเวลาสั้นๆนี้" แจค ธอมัส ประธานบริหารของเบส ได้กล่าว "ปีที่แล้วเป็นปีที่ยากสำหรับธุรกิจฟิตเนส แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการวางแผนอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าสำหรับเบส เราเชื่อมั่นในอนาคตและความสำคัญของภาพรวมธุรกิจฟิตเนสยิ่งกว่าที่เคย พวกเราคาดการณ์ว่าเรื่องสุขภาพและฟิตเนสจะยังคงได้รับความสนใจอย่างมาก พวกเรามั่นใจอย่างมากในการกลับมา"
ธุรกิจฟิตเนสทั่วโลกได้เติบโตเป็นอย่างมาก ในจำนวนฐานลูกค้าและจำนวนการเข้าใช้บริการตั้งแต่หลังได้เปิดให้บริการอีกครั้ง
ทีมเบสได้เตรียมพร้อมขยายแพลนเทคโนโลยี เพื่อเตรียมกลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบที่จะช่วยให้ลูกค้าออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเห็นผลลัพธ์
เบสได้ให้บริการออนไลน์ในขณะนี้ระหว่างที่ยังปิดให้บริการ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.basebangkok.com
ที่มา: โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์