เอ็นทีทีเดินหน้าขยายพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ 20% ครองตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยศักยภาพที่เหนือกว่า สอดรับยอดธุรกิจออนไลน์พุ่ง

ศุกร์ ๐๓ กันยายน ๒๐๒๑ ๑๔:๓๑
เอ็นทีที โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (NTT Ltd.'s Global Data Centers division) ผู้นำใน IDC MarketScape ปี 2021 ด้านการให้บริการ Worldwide Datacenter Colocation and Interconnection Services1 โดยให้บริการด้านไอซีทีอย่างเต็มรูปแบบ และยังคงขยายพื้นที่ศูนย์ข้อมูล หรือดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง 20% เพื่อสร้างอนาคตแห่งการเชื่อมต่อซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าองค์กร และ Hyperscaler ทั่วโลก

เอ็นทีที ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ แอฟริกา และเอเชีย รวมถึงสาขาหลักในอินเดีย โดยดำเนินการเชื่อมต่อไปทั่วโลกด้วยเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ข้ามภูมิภาคผ่านเมืองสำคัญๆ เช่น ลอนดอน สิงคโปร์ โตเกียว และเวอร์จิเนียในอเมริกาเหนือ ซึ่งการขยายบริการของดาต้าเซ็นเตอร์ทำให้ความมี capacity ของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นและให้การเชื่อมต่อเครือข่ายทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงกลุ่มประเทศต่างๆ ดังนี้:

  • อเมริกา :

ในปี 2020 และ 2021 ได้มีการเปิดแคมปัสของดาต้าเซ็นเตอร์ขึ้นใหม่ 3 แห่ง ในเมืองฮิลส์โบโร รัฐโอเรกอน, ซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย และชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ นอกเหนือจากการขยายในแอชเบิร์น รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งแคมปัสที่ฮิลส์โบโร มีพื้นที่ขนาด 47 เอเคอร์ (ประมาณ 190,000 ตารางเมตร) โดยมีดาต้าเซ็นเตอร์ 5 แห่ง ที่เอ็นทีทีได้วางแผนสมรรถนะการโหลดพลังงานไอที (IT load capacity) ได้ถึง 126 เมกะวัตต์ และ Subsea Connect พร้อมให้บริการเชื่อมต่อเครือข่ายข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกที่ให้การเชื่อมต่อระหว่างฮิลส์โบโร รัฐโอเรกอน และโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ระบบเคเบิลใต้ทะเล Pacific Crossing (PC-1) ของเอ็นทีที สำหรับแคมปัสที่ฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนาซึ่งจะเปิดให้บริการในต้นปี 2022 และเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งที่ 7 ของสหรัฐอเมริกา โดย NTT Phoenix PH1 จะเพิ่มโหลดพลังงานไอทีเป็น 36 เมกะวัตต์ และเป็นดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในเจ็ดแห่งที่วางแผนการโหลดพลังงานไอทีไว้ถึง 240 เมกะวัตต์

  • ยุโร ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA):

ในปีที่ผ่านมาเอ็นทีทีได้เปิดอาคารดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมถึงเมืองมิวนิก และแฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนี โดยยังคงรักษาตำแหน่งผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์อันดับหนึ่งในตลาดเยอรมนีต่อไป สำหรับในสหราชอาณาจักร ดาต้าเซ็นเตอร์จะเป็นเรือธงแห่งใหม่ใน London 1 โดยจะเปิดในเดือนธันวาคมนี้ และเมื่อดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบแล้วจะเพิ่มศักยภาพของเอ็นทีทีได้มากกว่า 200% เพื่อรองรับโครงสร้างหลักทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงิน, มีเดีย และเกม ในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้เอ็นทีทียังได้ลงทุนเกี่ยวกับการวางท่อและไฟเบอร์เพื่อเชื่อมต่อไปยังดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดในกรุงลอนดอนอีกด้วย

และในอีกสองปีข้างหน้าเอ็นทีทีจะเพิ่มสมรรถนะการโหลดพลังงานด้านไอทีให้พร้อมใช้งานในกลุ่มประเทศ EMEA มากกว่า 40% เนื่องจากได้สร้างอาคารดาต้าเซ็นเตอร์ขึ้นมาใหม่ถึง 13 แห่ง ครอบคลุมทั้งหมด 9 แห่งใน 6 ประเทศ เพื่อเพิ่มโหลดพลังงานไอทีเป็น 115 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ 50,000 ตารางเมตร โดยเอ็นทีทีจะเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในกรุงมาดริดและโจฮันเนสเบิร์ก รวมทั้งจะเพิ่มอาคารไปยังกรุงเวียนนา, ซูริก, ลอนดอน และทั่วเยอรมนี เพื่อขยายการเชื่อมต่อระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยกัน

  • เอเชียแปซิฟิก (ARAC):

Jakarta 3 ในอินโดนีเซียจะเปิดตัวโหลดพลังงานไอทีที่ 15 เมกะวัตต์ ที่เมืองเบกาซิ ห่างจากใจกลางจาการ์ตาประมาณ 30 กิโลเมตร ภายในสิ้นปีนี้ โดยการใช้จุดแข็งของเอ็นทีทีในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย ลูกค้าจะสามารถเชื่อมต่อกับ IXs และ ISPs ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Cyberjaya 5 ในมาเลเซียเริ่มให้บริการ 6.8 เมกะวัตต์ และวางแผนที่จะขยายเพิ่มอีก 6.8 เมกะวัตต์ ไปยังแคมปัส Cyberjaya ในญี่ปุ่น ซึ่งมีการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในโตเกียวที่ให้โหลดพลังงานไอทีอยู่ที่ 21 เมกะวัตต์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าของเรา โดยเอ็นทีทีกำลังพิจารณาขยายสาขาเพิ่มเติมในกรุงเทพฯ (ประเทศไทย) เขตมหานครโอซาก้า (ญี่ปุ่น) และเวียดนามตอนใต้

  • อินเดีย:

สำหรับ Mumbai 8 กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ที่แคมปัสใน Chandivali ซึ่งเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ Hyperscale ซึ่งจะดำเนินการได้เป็นแห่งแรกของอินเดีย โดยให้โหลดพลังงานไอทีได้ถึง 85 เมกะวัตต์ และในอีก 18 เดือนข้างหน้านี้จะเปิดตัวการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ Hyperscale แห่งใหม่อีก 4 แห่งเช่นกัน โดยจะเปิดให้บริการ 2 แห่งใน เมืองนาวีมุมไบ และที่เมืองเจนไน กับเดลี อีกเมืองละแห่ง โดยเพิ่มโหลดพลังงานไอทีประมาณ 133 เมกะวัตต์ บนพื้นที่ 50,000 ตารางเมตร โดยการเชื่อมต่อโครงข่ายสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ทั้ง 10 แห่งทั่วอินเดีย ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2021 และมีการวางแผนสร้างสถานีเคเบิลใต้น้ำในมุมไบและเจนไน ซึ่งการขยายการเติบโตครั้งนี้จะทำให้ตำแหน่งของเอ็นทีทีขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในตลาดอินเดียให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการขยายพื้นที่ Global Data Center ของเอ็นทีทีแล้วนั้น ปัจจุบันเอ็นทีทีกำลังสร้างสายเคเบิลใต้น้ำที่ความจุพลังงานความเร็วสูง "MIST" ที่เชื่อมต่อไปยังสิงคโปร์, เมียนมาร์, มาเลเซีย และอินเดีย (ในมุมไบ และเชนไน) ระบบเคเบิล MIST จะมีความยาวรวม 11,000 กม. ซึ่งมากกว่าระยะทางการบินจากนิวยอร์ก ข้ามสหรัฐอเมริกาผ่านมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในกลางปี 2023

การผสมผสานโครงสร้างพื้นฐานของการเพิ่มโหลดพลังงานไอทีบนดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ ประกอบกับสถานะของเอ็นทีทีในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลกอันดับหนึ่ง โดยจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้องค์กรธุรกิจต่างๆ มีแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยพร้อมตอบโจทย์ความต้องการบริการด้าน ICT อย่างเต็มรูปแบบที่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับ Global Data Center Interconnect (GDCI) เป็นบริการโครงสร้างเครือข่ายแบบบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบทั่วโลกที่ให้บริการเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ข้ามภูมิภาคและการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยแบบส่วนตัวไปยังผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ด้วยรูปแบบ single physical port ที่รองรับบริการเครือข่าย multiple virtual network พร้อมเพิ่มความสามารถดังกล่าวในการจัดหาโครงสร้างหลักทางดิจิทัล (digital backbone) ที่มีความเร็วสูงเพื่อเชื่อมต่อถึงกันในตลาดทั่วโลก และขยายการวางระบบเคเบิลใต้น้ำในจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ข้ามไปยังแต่ละภูมิภาคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นายมาซาอากิ โมริบายาชิ ประธานและกรรมการ บริษัท เอ็นทีที จำกัด กล่าวว่า การระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไปอย่างมาก คุณภาพชีวิตของประชาชน ณ ตอนนี้ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว โดยในอีก 18 เดือนข้างหน้านี้เอ็นทีทีได้วางแผนที่จะเพิ่มการดำเนินงานของดาต้าเซ็นเตอร์อีก 20% บนพื้นที่รวมกว่า 600,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 6.5 ล้านตารางฟุต ในกว่า 20 ประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้เอ็นทีทีจะขยายจุดเชื่อมต่อบริการ GDCI อีกประมาณ 30 จุดทั่วโลกในดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา เพื่อปรับสภาพแวดล้อมบนระบบไฮบริดคลาวด์ขององค์กรให้เหมาะสมผ่านดาต้าเซ็นเตอร์และบริการเครือข่ายของเอ็นทีที

"เอ็นทีทีได้เริ่มก่อสร้างศูนย์ดังกล่าวเพื่อเพิ่มโหลดพลังงานไอที 300 เมกะวัตต์ ลงในผลงานการให้บริการด้วยการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ให้เสร็จสมบูรณ์ พร้อมด้วยการขยายแคมปัสและเครือข่ายที่มี capacity สูง เช่น  เคเบิลใต้น้ำ MIST ซึ่งเรากำลังสร้างอนาคตที่เชื่อมต่อถึงกันซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของเอ็นทีทีทั่วโลก"นายมาซาอากิ กล่าวสรุป

สามารถติดต่อเราและเยี่ยมชมข้อมูลของ NTT's Global Data Center พร้อมบริการอื่นๆของเอ็นทีทีได้ที่ https://datacenter.hello.global.ntt 

1IDC MarketScape: Worldwide Datacenter Colocation and Interconnection Services 2021

เกี่ยวกับแผนกโกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ ของเอ็นทีที

Global Data Centers เป็นแผนกหนึ่งของ NTT Ltd. เรามีแพลตฟอร์มระดับโลกซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเอ็นทีทีได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามผู้นำระดับโลกจาก IDC ในด้าน Colocation and Interconnection Services MarketScape ซึ่งครอบคลุมการให้บริการกว่า 20 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงอเมริกาเหนือ ยุโรป แอฟริกา อินเดีย และเอเชียแปซิฟิก ในฐานะโอเปอเรเตอร์ที่เป็นกลางเรานำเสนอการเข้าถึงผู้ให้บริการคลาวด์หลายราย ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนทางอินเทอร์เน็ต และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมที่หลากหลาย รวมถึงเครือข่าย IP ระดับโลกในระดับ tier-one ที่สอดคล้องกับ IPv6 ของเราเอง ลูกค้าของเอ็นทีทีจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่เราปรับการทำงานให้เหมาะสมและรับประสบการณ์ในแนวทางการดำเนินงานที่ดีที่สุดในการออกแบบและการดำเนินงานในศูนย์ข้อมูลที่เชื่อถือได้ และสามารถปรับขนาดหรือปรับแต่งได้ตามต้องการบนดาต้าเซ็นเตอร์ของเอ็นทีที

สามารถเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ใหม่ของเรา datacenter.hello.global.ntt.

ที่มา: อิวอลฟว์ คอมมูนิเคชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง