กทม.เร่งให้บริการเชิงรุกฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด และอยู่ระหว่างให้นมบุตร

พุธ ๐๘ กันยายน ๒๐๒๑ ๑๑:๔๒
นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กำชับให้ติดตามหญิงตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ หญิงหลังคลอด รวมถึงหญิงที่อยู่ระหว่างให้นมบุตร ให้มารับวัคซีนโควิด-19 ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย ได้บริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ภายใต้คณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งดำเนินการควบคู่กับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งสำนักอนามัยได้ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาล (รพ.) ทุกแห่งให้สำรวจจำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ และจัดสรรวัคซีนให้กับ รพ.เพื่อฉีดวัคซีนให้กับหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงให้บริการเชิงรุกในชุมชนโดยทีม Bangkok CCRT และประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้หญิงตั้งครรภ์รับการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันและลดการสูญเสีย โดยขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้วทั้งสิ้นประมาณ 10,000 ราย

นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า สำนักการแพทย์เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ รวมทั้งหญิงหลังคลอดและอยู่ระหว่างให้นมบุตร โดยไม่ต้องลงทะเบียน เพียงนำใบฝากครรภ์ หรือใบรับรองการตั้งครรภ์จากแพทย์ พร้อมบัตรประชาชน มาติดต่อขอเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19ได้ที่ รพ.ในสังกัดทั้ง 11 แห่ง โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ (Bangkok Fast & Clear Center : BFC) ของ รพ. หรือคลินิกฝากครรภ์ประจำ รพ.ทั้ง 11 แห่ง ขณะเดียวกันได้เปิด Walk-in ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนไทยร่วมใจ ทั้ง 12 จุด โดยผู้ที่จะมารับการฉีดวัคซีนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัคซีน 1516 หรือจากเพจเฟซบุ๊ก "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย" นอกจากนี้ ได้ติดตามดูแลและให้คำแนะนำหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด และอยู่ระหว่างให้นมบุตรที่ฝากครรภ์กับ รพ.ในสังกัด โดยเน้นส่งเสริมให้ป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดด้วยการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ เมื่อสงสัยว่าติดเชื้อสามารถตรวจเชื้อด้วย Antigen Test Kit ได้ ตลอดจนสนับสนุนหญิงตั้งครรภ์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือหญิงตั้งครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไปและมีภาวะครรภ์เสี่ยงสูงอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ให้ทำงานที่บ้านหากสามารถทำได้ รวมถึงควรเข้ารับการฉีดวัคซีน เนื่องจากมีความเสี่ยงโรคจะรุนแรงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า โดยควรฉีดวัคซีนหลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ซึ่งจะมีผลข้างเคียงลักษณะคล้ายกับคนทั่วไปและยังสามารถฉีดวัคซีนกับสตรีให้นมบุตรได้อีกด้วย

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง