กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ เร่งเครื่อง "โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดต่างประเทศ" ดึงผู้เชี่ยวชาญการตลาด และการออกแบบชั้นนำของประเทศไทย มาร่วมพัฒนาแบรนด์สมุนไพรไทย สู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และเตรียมความพร้อมขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยสู่ ตลาดโลก ตามนโยบาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดต่างประเทศ ปี 2564 ได้จัดขึ้นเป็นปีแรก โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการออกแบบ ระดับแนวหน้าของประเทศไทย มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ รวมถึง ให้คำแนะนำเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการสมุนไพรไทยในกลุ่ม HEALTH & WELNESS รวมจำนวน 31 แบรนด์ ตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะทำตลาด การดีไซน์ผลิตภัณฑ์ การจัดทำบรรจุภัณฑ์ (แพคเกจจิ้ง) การวางแผนการตลาด และการนำเสนอเรื่องราวผลิตภัณฑ์ (Story Telling) เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ สมุนไพรไทยสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ ของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก ผ่านการพัฒนา บรรจุภัณฑ์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม รองรับการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ สมุนไพรไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ตามเมกะเทรนด์ของโลกที่มีความต้องการ ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยเพิ่มขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่มีปรับดีไซน์ บรรจุภัณฑ์ใหม่ อาทิ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกุหลาบมอญ ผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร ผลิตภัณฑ์แชมพูจากสมุนไพร และผลิตภัณฑ์ยาดม จากสมุนไพร เป็นต้น
สำหรับผลิตภัณฑ์จากกลุ่มของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก ที่ได้รับการพัฒนา บรรจุภัณฑ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และนักออกแบบ ทั้ง 31 แบรนด์ จะถูกนำมาจัดแสดง ที่ FACTOPIA ถ.รัตนาธิเบศร์ ภายใต้กิจกรรม "Shift to the New Market" เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ (Buyers) นักธุรกิจ สื่อมวลชน และผู้สนใจ ได้เข้าชมผลิตภัณฑ์ ตลอดจนมีการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ในรูปแบบไลฟ์สตรีมมิง (Live Streaming) เพื่อเปิดโอกาสทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ
DITP มีความมั่นใจว่า โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ สมุนไพรในกลุ่ม HEALTH & WELNESS สู่ตลาดต่างประเทศ จะสามารถร่วมยกระดับผู้ประกอบการสมุนไพรไทยเพื่อร่วมเปิดตลาดใหม่ในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยก้าวสู่ผู้นำในตลาดของอาเซียน และตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
ที่มา: ชมฉวีวรรณ