ผลวิจัยเผย ผ้าไนลอนฝังสังกะสีมีประสิทธิภาพยับยั้งไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

อังคาร ๒๑ กันยายน ๒๐๒๑ ๐๘:๔๐
บทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ACS Applied Materials Interfaces ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประสิทธิภาพ พร้อมทั้งอธิบายเกณฑ์การทดสอบในอนาคต

ทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรนานาชาติจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, Icahn School of Medicine at Mount Sinai, ResInnova Labs และบริษัท Ascend Performance Materials พบว่า ผ้าไนลอนที่ฝังด้วยไอออนสังกะสีสามารถยับยั้งการทำงานของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ได้ถึง 99%

ปัจจุบันมีการใช้หน้ากากอนามัย ชุดป้องกัน และแผ่นกรอง เพื่อชะลอการแพร่กระจายของไวรัส แต่หน้ากากคุณภาพต่ำสามารถกักเก็บเชื้อไวรัสที่ยังมีชีวิตจากผู้สวมใส่ที่ติดเชื้อ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อได้

Vikram Gopal, Ph.D. ผู้เขียนงานวิจัยร่วมอาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Ascend Performance Materials กล่าวว่า "ความท้าทายที่สำคัญคือการดูดซึมและการยับยั้งการทำงานของเชื้อไวรัส" โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น โควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ติดต่อผ่านหยดละอองและละอองลอย โพลีโพรพิลีน (Polypropylene) ซึ่งเป็นวัสดุในหน้ากากแบบใช้แล้วทิ้งที่ใช้กันทั่วไป เป็นพลาสติกที่ไม่ชอบน้ำ (Hydrophobic) และไม่ดูดซับความชื้น ไวรัสจึงสามารถเกาะติดอยู่บนพื้นผิวของหน้ากาก และทำให้เสี่ยงแพร่เชื้อเมื่อจับหน้ากาก"

Dr. Gopal กล่าวว่า ผ้าฝ้ายเองก็มีปัญหา เพราะถึงแม้ "ฝ้ายดูดซับความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ยับยั้งการทำงานของไวรัส ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเช่นกัน"

ใน บทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร ACS Applied Materials Interfaces นักวิจัยอธิบายว่าผ้าที่ทำจากไนลอน 6,6 ที่ฝังด้วยไอออนสังกะสี สามารถดูดซับละอองความชื้นที่มีไวรัสปะปนอยู่ และยับยั้งอนุภาคไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ้าสามารถลดอนุภาคของไวรัสได้ถึง 99% ในหนึ่งชั่วโมง

นอกจากนี้ ทีมวิจัยแสดงให้เห็นด้วยว่า ไนลอนที่ฝังไอออนสังกะสียังคงประสิทธิภาพไว้เมื่อเวลาผ่านไป โดยยังคงคุณสมบัติในการยับยั้งไวรัสหลังจากผ่านการซัก 50 ครั้ง

"การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผ้าไนลอนผสมสังกะสีมีประสิทธิภาพในการดูดซึมและยับยั้งไวรัสได้ดีกว่าผ้าฝ้ายและวัสดุโพลีโพรพิลีนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน" Dr. Gopal กล่าว

Dr. Gopal ระบุว่า ผลการวิจัยมีนัยสำคัญสำหรับการพัฒนาชุด PPE ในอนาคต

"ชุดหรืออุปกรณ์ PPE ที่ปลอดเชื้อไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัส" Gopal กล่าว "แต่หากเราสามารถซักและนำอุปกรณ์ PPE กลับมาใช้ใหม่ได้ ก็จะช่วยลดการใช้ผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทำให้หน้ากากหลายร้อยล้านชิ้นไม่ต้องกลายไปเป็นขยะในหลุมฝังกลบ"

ติดต่อ: Nicki Britton, +1 832-205-4854, [email protected]  

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1628763/Acteev_crystalline_structure_with_zinc_ions.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1326397/ASCEND_Logo.jpg



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด