รู้จักลมพิษให้ดีขึ้น

พุธ ๒๒ กันยายน ๒๐๒๑ ๑๕:๔๔
สวัสดีครับ หมอเชื่อว่า หลายท่านน่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับลมพิษกันมาบ้างแล้วนะครับ สำหรับในวันที่ 1 ตุลาคม ของทุก ๆ ปี เป็นวันโรคลมพิษโลก สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย จึงต้องการสร้างความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของโรคลมพิษ

คนที่เป็นลมพิษส่วนใหญ่จะมีผื่นแดง บวม เป็นจุด หรือปื้นขึ้นตามผิวหนัง บางคนก็อาจจะมีอาการบวมตามเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ เช่น เปลือกตา หรือริมฝีปาก ร่วมด้วย ผื่นลมพิษยุบเร็วครับ แต่ละจุดที่ขึ้นเป็นแค่วันเดียวก็หายแล้ว พอผื่นหายไปผิวหนังบริเวณนั้นก็จะกลับมาเรียบสนิทสีเหมือนเดิมเลยครับ

บางคนที่เป็นลมพิษอาจมีอาการรุนแรง เกิดอาการทางปอด, หัวใจ หรือทางเดินอาหาร ทำให้หายใจลำบากจากภาวะหลอดลมตีบ มีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด จากความดันโลหิตต่ำ หรือ ปวดท้องบิด คลื่นไส้อาเจียนได้ ซึ่งต้องรีบพบแพทย์นะครับ เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต

"โรคลมพิษ มีเพื่อนที่หน้าตาคล้ายๆ กันด้วยนะครับ แต่ไม่ใช่พวกเดียวกัน โดยจะมีอาการแตกต่างจากโรคลมพิษที่เรารู้จัก เช่น ผื่นแต่ละจุดเป็นนานเกิน 1 วันกว่าจะหาย เมื่อหายแล้วผิวหนังบริเวณนั้นเกิดรอยคล้ำมีสีเข้ม หรือมีไข้ ปวดข้อร่วมด้วย ซึ่งหากมีอาการต่างๆเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุต่อไป"

รศ.นพ.มติ เชื้อมโนชาญ กล่าวว่า โรคลมพิษนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ แบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง ซึ่งแต่ละกลุ่มมีสาเหตุและการดำเนินโรคที่แตกต่างกัน โดย 1. ลมพิษเฉียบพลัน เกิดขึ้นไม่เกิน 6 สัปดาห์ เกิดจาก ยา อาหาร แมลงสัตว์กัดต่อย หรือการติดเชื้อบางชนิด แต่บางครั้งก็อาจจะไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน ผู้ป่วยลมพิษชนิดเฉียบพลัน มักจะหายภายใน 1-3 สัปดาห์ 2. ลมพิษเรื้อรัง เป็นติดต่อกันนานเกิน 6 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยภายในร่างกายเองทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่เป็นสาเหตุของลมพิษได้ง่ายกว่าปกติ มีผู้ป่วยบางส่วนที่อาจเกิดจากกระตุ้นโดยปัจจัยทางกายภาพ เช่น การออกกำลังกาย ความร้อน ความเย็น แสงแดด การขูดถู หรือกดทับ เป็นต้น สำหรับลมพิษชนิดเรื้อรังนั้น ส่วนใหญ่เป็นกันนานหลายเดือน บางคนอาจเป็นนานหลายปี แต่ไม่ต้องเป็นกังวลมาก เพราะลมพิษถ้าไม่เกิดอาการแทรกซ้อน ก็ไม่อันตราย ไม่ได้ส่งผลต่ออวัยวะอื่นๆ แต่อาจรบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยบ้าง

สำหรับการป้องกันที่ดีที่สุดที่ไม่ให้เป็นลมพิษ คือ หลีกเลี่ยงสาเหตุ หรือปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่นลมพิษครับ ส่วนการรักษานั้น ในปัจจุบันมียาหลายขนานทั้งยารับประทาน และยาฉีดที่มีประสิทธิภาพดี เกิดผลข้างเคียงน้อย ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ถือว่าเป็นยาที่มีความปลอดภัยในการใช้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

ที่มา: ไอเวิร์คพีอาร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน