ทำไมต้องใช้ระบบอัตโนมัติ

อังคาร ๒๘ กันยายน ๒๐๒๑ ๑๗:๓๐
บทความโดย สุพรรณี อำนาจมงคล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เร้ดแฮท

ระบบอัตโนมัติช่วยธุรกิจให้เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ องค์กรในปัจจุบันกำลังรับมือกับแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมือ เช่น Airbnb และ Amazon นอกจากนี้ทุกธุรกิจยังเผชิญกับความท้าทายในการสนับสนุนพนักงานและพาร์ทเนอร์ ในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ รวมถึงทำอย่างไรจึงจะสามารถมอบและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และบริการที่รวดเร็วมากขึ้นให้ลูกค้าได้

ดังนั้นทุกธุรกิจจึงต้องการและจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการทำงานครั้งใหญ่นี้ด้วยตนเอง

ระบบอัตโนมัติจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากต่อการบริหารจัดการ การเปลี่ยนแปลง และการปรับตัว และไม่ได้สำคัญเฉพาะกับโครงสร้างพื้นฐานไอทีขององค์กรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรผ่านกระบวนการต่าง ๆ อีกด้วย และด้วยการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยในการเปลี่ยนแปลงนี้ ช่วยให้องค์กรมีเวลาและใช้กำลังความสามารถเน้นไปที่การพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้นทำงานสำเร็จได้เร็วขึ้น เจ้าหน้าที่ไอทีก็จะมีเวลาไปจัดการแก้ไขปัญหาที่ใหญ่กว่าได้มากขึ้น ทำให้ปัญหาเหล่านั้นเป็นเหมือนงานประจำ และปรับให้สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นผ่านระบบอัตโนมัติได้ในที่สุด

ความได้เปรียบของระบบอัตโนมัติ

ระบบอัตโนมัติไม่จำเป็นต้องหมายถึงการมาแทนที่คน เราได้เห็นแนวคิดลักษณะนี้จากการที่ระบบอัตโนมัติช่วยขจัดขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องใช้คนทำ แต่เราพบความสำคัญและข้อได้เปรียบของระบบอัตโนมัติได้จาก ความสามารถในการผลิตที่ดีขึ้น ความสม่ำเสมอ และประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้น เมื่อองค์กรใช้ระบบอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การมีส่วนร่วมของคนจะมีความสำคัญมากขึ้นแต่ด้วยความถี่ที่น้อยลง

แทนที่เราจะมองว่าระบบอัตโนมัติเป็นเครื่องมือที่ลดการจ้างงาน แต่เราควรมองความเป็นจริงที่ว่า ระบบอัตโนมัติช่วยให้พนักงานไอทีมีประสบการณ์มากขึ้นในการให้ความสำคัญและหาทางแก้ปัญหาที่ใหญ่กว่า มากกว่าที่จะต้องทำงานเดิม ๆ ทุกวันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ข้อได้เปรียบของระบบอัตโนมัติ

  • ผลผลิตมากขึ้น พนักงานขององค์กรสามารถใช้เวลาไปทำงานที่จะส่งผลสำคัญต่อธุรกิจได้มากขึ้น ปล่อยให้การทำงานซ้ำ ๆ เป็นหน้าที่ของซอฟต์แวร์
  • เชื่อถือได้มากขึ้น เมื่อลดเวลาในการทำงานของคนลงก็จะช่วยให้การควบคุมปัญหาต่าง ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นเหมือนเดิมตลอดเวลาลดลง การใช้ระบบอัตโนมัติจะทำให้องค์กรทราบอย่างแน่นอนว่ากระบวนการต่าง ๆ การทดสอบ การอัปเดท เวิร์กโฟลว์ หรืองานอื่น ๆ จะเกิดขึ้นเมื่อใด ใช้เวลานานเท่าไร และองค์กรก็จะสามารถเชื่อมั่นในผลลัพธ์ที่จะออกมาได้
  • กำกับดูแลง่ายขึ้น การใช้คนจำนวนมากอาจทำให้เกิดช่องว่างทางความรู้มากขึ้น และนั่นหมายถึงว่าแต่ละฝ่ายที่ทำงานร่วมกันในองค์กรอาจไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือมีใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่รับผิดชอบอยู่นี้ ดังนั้น ความสามารถในการตรวจสอบทุกกระบวนการการทำงานหมายถึงการควบคุมที่ดีขึ้น

ความท้าทายในการใช้ระบบอัตโนมัติ

  • ค่าใช้จ่าย การสร้างโซลูชันระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพต้องใช้เวลาและกำลังความสามารถมาก การทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เชื่อถือได้เช่น เร้ดแฮท ที่จะเป็นผู้ช่วยจัดการกับงานหนักนี้แทนองค์กร เพื่อช่วยองค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายและทำงานได้เร็วขึ้น
  • ขอบเขตการใช้งาน ระบบอัตโนมัติไม่ได้ชาญฉลาดได้ด้วยตัวเอง แต่ขึ้นอยู่กับองค์กรจะใช้ระบบอัตโนมัติทำอะไรบ้าง และจะสร้างขึ้นด้วยวิธีการใด ซึ่งบางส่วนอาจอยู่นอกเหนือขอบเขตนั้น ดังนั้นการจำกัดการใช้ระบบอัตโนมัติในบางแง่มุม หรือบางฟังก์ชันสามารถบรรเทาความกังวลนี้ได้ องค์กรควรระลึกไว้เสมอว่า ระบบอัตโนมัติขององค์กรจะฉลาดและปลอดภัยพอ ๆ กับวิธีการที่องค์กรใช้งานเท่านั้น

ทีมทำงานด้านไอทีได้รับการร้องขอให้ดำเนินการให้เร็วขึ้น จัดการกับสภาพแวดล้อมไอทีที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น และนำแนวทางการพัฒนาและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อรับมือกับความต้องการใหม่เหล่านี้ องค์กรจำนวนมากได้ใช้ระบบอัตโนมัติกับงานด้านไอทีบางอย่างในวงจำกัดในบริบทที่แตกต่างกันอย่างไม่ยืดหยุ่น มีสคริปต์เฉพาะเรื่องมากมาย รวมถึงใช้เครื่องมือที่เป็นอุปกรณ์ดั้งเดิมที่ใช้เฉพาะทางและมีข้อจำกัดทางกรรมสิทธิ์ แม้ว่าวิธีการแบบนี้จะช่วยให้ฟังก์ชั่นที่ใช้ทำงานเร็วขึ้น แต่ก็ไม่สามารถขยายการทำงานไปยังทรัพยากรที่หลากหลาย และอาจทำให้การกระจายระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพไปทั่วองค์กรทำได้ยาก

องค์กรไม่ได้ต้องการแค่ความสามารถในการสร้างระบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดายเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต้องกระจายการใช้และนำระบบอัตโนมัติมาใช้ซ้ำกับโปรเจคและทีมงานทั้งหมดได้ ในระดับการกำกับดูแลและการควบคุมที่ถูกต้องเหมาะสม องค์กรบางแห่งอาจใช้ระบบอัตโนมัติอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการความช่วยเหลือในการขยายการทำงานของระบบออกไปเท่านั้น

ไม่ว่าสภาพแวดล้อมไอทีขององค์กรจะซับซ้อนเพียงใด ไม่ว่าองค์กรจะอยู่ในขั้นตอนไหนของการทำให้ระบบไอทีทันสมัยก็ตาม การสร้างระบบอัตโนมัติที่นำไปใช้ได้ทั้งองค์กร ไม่เพียงช่วยให้องค์กรสามารถทำให้กระบวนการด้านไอทีเป็นอัตโนมัติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยี ทีมงานที่มีอยู่ และองค์กรเองด้วย

การนำโซลูชันระบบอัตโนมัติที่เหมาะสมมาใช้ ช่วยให้องค์กรใช้แอปพลิเคชันและบริการใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และรับรู้ได้ว่ามีความสามารถในการพัฒนาแอปพลิเคชันมากขึ้น องค์กรสามารถใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเตรียมระบบ จัดการการตั้งค่า การแพตช์ การทำงานผสานกันของแอป รวมถึงความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

เร้ดแฮทเชื่อว่าระบบอัตโนมัติเป็นองค์ประกอบเชิงกลยุทธ์และพื้นฐานของระบบไอทีที่ทันสมัยและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โซลูชัน บริการ และการฝึกอบรมต่าง ๆ ของบริษัทช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมความต้องการในการทำให้ธุรกิจเป็นอัตโนมัติ ดังนั้นองค์กรสามารถเน้นไปที่การสร้างสรรสิ่งใหม่ ๆ และก้าวไปข้างหน้า

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ระบบอัตโนมัติหรือองค์กรที่ต้องการขยายการใช้งานให้ครอบคลุมงานใหม่ ๆ เร้ดแฮทมีโซลูชันที่สามารถช่วยให้คุณปรับขยายการทำงานระบบอัตโนมัติให้ใช้กับทุกส่วนของธุรกิจขององค์กรได้

เร้ดแฮททำงานด้านเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ร่วมกับชุมชนโอเพ่นซอร์สขนาดใหญ่ วิศวกรของเร้ดแฮทช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจและไอทีดำเนินการได้อย่างมั่นคง คงความเสถียรและปลอดภัย

Red Hat Ansible Automation Platform ช่วยให้องค์กรปรับขยายระบบอัตโนมัติด้านไอที บริหารจัดการการทำงานที่ซับซ้อนต่าง ๆ และควบคุมระบบอัตโนมัติ แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมโครงสร้างพื้นฐานไอทีจากศูนย์กลางผ่านเวอร์ชวลแดชบอร์ด ควบคุมการเข้าใช้งานที่กำหนดไว้ตามบทบาทของผู้ใช้ และอื่น ๆ อีกมากเพื่อลดความซับซ้อนในการทำงาน

Ansible Automation Platform ใช้ภาษาอัตโนมัติที่ง่าย จึงช่วยให้ผู้ใช้งานประสานการทำงานระหว่างทีมหลาย ๆ ทีมและบุคคลต่าง ๆ เพื่อแชร์ ตรวจสอบ และจัดการระบบอัตโนมัติได้อย่างสะดวก

Ansible Automation Platform มีโครงสร้างของคำสั่งการทำงานที่ง่ายในการทำความเข้าใจ ทำให้สามารถผสานการตั้งค่าและการบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ ให้เข้ากับงานด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นใจได้ว่างานต่าง ๆ จะเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นต้องใช้และเกิดขึ้นตามลำดับที่ถูกต้อง

ที่มา: เอฟเอคิว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง