ม.มหิดล ริเริ่มโครงการ Mahidol Incubation Program 2021 บ่มเพาะนักคิดสร้างสรรค์สู่เส้นทางสตาร์ทอัพ

จันทร์ ๒๕ ตุลาคม ๒๐๒๑ ๑๕:๒๓
บนเส้นทางสู่การเป็นประเทศนวัตกรรม จำเป็นต้องมีตัวชี้วัดเพื่อแสดงทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน และคงต้องฝากอนาคตของประเทศไทยไว้ที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นเหมือนนักวิ่งถือคบเพลิงนำสู่เส้นชัยต่อไป แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้จำเป็นต้องผ่านการบ่มเพาะเคี่ยวกรำให้พร้อมตั้งแต่จุดสตาร์ทจนถึงเส้นชัย

เช่นเดียวกับเส้นทางสู่การเป็น "สตาร์ทอัพ" หรือการเริ่มต้นธุรกิจที่มีการออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนจำเป็นต้องมีการบ่มเพาะตั้งแต่เริ่มต้น ไปจนสามารถออกสู่ตลาดได้จริง

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การที่เราวางโครงสร้างพื้นฐานเรื่องงานวิจัยที่เข้มแข็ง เหมือนเราตอกเสาเข็มไว้อย่างแน่นหนา หลังจากนั้นเราจึงจะเริ่มสร้างหลังคาขึ้นมาได้ ซึ่งเราจะสร้างไม่ได้เลยถ้ารากฐานไม่เข้มแข็ง ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดลมีความเข้มแข็งเรื่องงานวิจัยแล้ว ก้าวต่อไป คือ ทำอย่างไรให้งานวิจัยเป็นที่ปรากฏในสายตาของประชาชนโดยอาศัยกลไกการบ่มเพาะความรู้ที่เราได้รับมาไปพัฒนาตามตลาดที่เราต้องการ

เพื่อให้การบ่มเพาะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในปี 2564 มหาวิทยาลัยมหิดล โดย สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) จึงได้ริเริ่มโครงการ "Mahidol Incubation Program 2021" (MIP 2021) เพื่อบ่มเพาะนักคิดสร้างสรรค์สู่เส้นทางสตาร์ทอัพ ทางออนไลน์ครั้งแรก โดยได้รับการสนับสนุนจาก DCU (Digital Convergence University) ที่มุ่งผลักดันมหาวิทยาลัยมหิดลสู่การเป็น "Smart University"

โดย MIP 2021 ถือเป็นการบ่มเพาะบนพื้นฐานของการมีงานวิจัยรองรับอยู่แล้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการเตรียมความพร้อมวางแผนออกแบบธุรกิจอย่างมีทิศทาง โดยมีพี่เลี้ยง (Coach) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ เป็นผู้ช่วยนำทางกับโครงการเร่งสปีด (Accellerator) ที่จะเป็นกิจกรรมในภาคต่อที่คาดว่าจะเริ่มในปีหน้า สู่การทำให้ความฝันที่จะต่อยอดสู่ตลาดนั้นเป็นจริง

"ความท้าทายอยู่ที่การเปิดโอกาสให้ทีมนักคิดสร้างสรรค์ที่เข้าร่วมแข่งขันได้เสนอไอเดียว่า หากได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพจากโครงการแล้วจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้ทั้งผลตอบแทนธุรกิจ และตอบโจทย์ความต้องการของคนส่วนใหญ่ บนพื้นฐานแห่งความเป็นไปได้ และการวางแผนที่รองรับความเสี่ยงไว้โดยรอบด้านด้วยโดยจุดหมายปลายทางอยู่ที่การมีนวัตกรรมที่ทำได้สำเร็จและสามารถออกสู่ตลาดจริง" ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภัทรชัย กีรติสิน กล่าว

หุ่นยนต์ดมกลิ่น "MUI Robotics" หรือ Mahidol University Intelligent Robotics เป็น 1 ใน 8 ทีมที่เข้ารอบและรับทุนเริ่มต้นแล้วก้อนแรก ซึ่งเป็นการคิดต่อยอดสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพจากงานวิจัยคุณภาพที่ริเริ่มโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรเกียรติ์ เกิดเจริญ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้สร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรม "จมูกอิเล็กทรอนิกส์" เจ้าของรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ของ มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี พ.ศ.2544

โดย นางสาววันดี อ้วนสอาด นักศึกษาปริญญาเอก ผู้เป็นศิษย์ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรเกียรติ์ เกิดเจริญ รับหน้าที่หัวหน้าทีมสตาร์ทอัพ "MUI Robotics" ได้ใช้จุดขายจากความโดดเด่นด้านการใช้เทคโนโลยีซึ่งสามารถต่อยอดออกดอกออกผลให้เกิดประโยชน์นานัปการในแวดวงอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยความสามารถของหุ่นยนต์ในการดมกลิ่นและรับรสที่เลียนแบบระบบประสาทสัมผัสจริงของมนุษย์ได้ แต่ที่พิเศษยิ่งกว่าคือ การสามารถวัดได้ออกมาเป็นตัวเลข ซึ่งทำให้เกิดความเที่ยงตรงและแม่นยำได้มากกว่าการใช้เพียงสัญชาตญาณ หรือการคาดเดา

นางสาววันดี อ้วนสอาด ได้เล่าถึงที่มาของการนำเทคโนโลยีซึ่งสร้างสรรค์และพัฒนาโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรเกียรติ์ เกิดเจริญ มาต่อยอดสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพว่าเกิดจากความสนใจในผลงานของอาจารย์ธีรเกียรติ์ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำให้ความฝันที่จะเห็นงานวิจัยดังกล่าวสามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้กลายเป็นจริง เนื่องจากทีมมีความพร้อมทั้งในด้าน Hardware และ Software ซึ่งนอกจากสามารถออกแบบการใช้เทคโนโลยีได้ตามความประสงค์ของลูกค้าแล้ว ยังสามารถสร้าง "แผนที่กลิ่น" เพื่อการตรวจสอบ และทำให้สินค้าได้มีมาตรฐานเดียวกัน และลดการ claim สินค้าได้ โดยทีมได้มีการเตรียมพร้อมด้านการวางแผนธุรกิจ ซึ่งมีฐานลูกค้ารองรับไว้แล้วและก้าวต่อไปจะยื่นจดอนุสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ผ่าน สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม(iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนทดลองตลาดในไทย แล้วขยายไปยังระดับเอเชีย

แม้ Mahidol Incubation Program 2021 จะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาของการบ่มเพาะเพื่อรอก้าวสู่การเติบโตสู่โลกจริงทางธุรกิจ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่รอการพิสูจน์ถึงศักยภาพของนักคิดสร้างสรรค์รุ่นใหม่ว่าจะออกวิ่งนำพาคบเพลิงสู่การเป็นประเทศนวัตกรรมให้กับประเทศไทยได้เร็ว และไกลเพียงใด เพียงความเชื่อมั่น และมุ่งมั่นตั้งใจ เชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ที่ www.mahidol.ac.th

สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ)

ออกแบบแบนเนอร์โดย วรรณภา อินทรประเสริฐ นักวิชาการโสตทัศนศึกษา

งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๒ คณะ กิจกรรม วิศวฯ ม.เกษตรศาสตร์ จับมือ อัลเตอร์วิม ร่วมวิจัย-พัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจ ด้านพลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บพลังงาน
๑๖:๐๖ กรุงศรีออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เป็นเวลา 6 เดือนตอบรับแนวทางการช่วยเหลือของสมาคมธนาคารไทย
๑๖:๒๙ Lexar Professional CFexpress 4.0 Type B Card DIAMOND คว้ารางวัล BEST STORAGE MEDIA ในงาน TIPA WORLD AWARDS
๑๖:๔๔ ฟอร์ติเน็ต ร่วมมือ สกมช. คัดเลือก-ฝึกอบรมเสริมทักษะบุคลากรคลาวด์ เล็งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เสริมความมั่นคงปลอดภัยบนคลาวด์ทุกรูปแบบ
๑๖:๒๙ ไอ-เทล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก แข็งแกร่งด้วย รายได้กว่า 4 พันล้าน กำไรเพิ่ม 93 เปอร์เซ็นต์ มุ่งการเติบโตต่อเนื่องตลอดปี
๑๖:๒๒ หมอแม็ค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมของไทย
๑๖:๐๗ ทรูเวฟ (ประเทศไทย) เปิดตัว GreenFarm.AI ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะทำให้สวนเติบโตสวยและยั่งยืนได้ดั่งใจ
๑๖:๕๐ ไบเทคบุรี เมกะโปรเจกต์ของภิรัชบุรี กรุ๊ป พลิกโฉม ไบเทค บางนา ก้าวข้ามอุตสาหกรรม MICE สู่สถานที่แห่งไลฟ์สไตล์ครบวงจร
๑๖:๕๒ ดีมันนี่ ตอกย้ำความสำเร็จในงาน Money 20/20 Asia ในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชัน โอนเงินไปต่างประเทศชั้นนำในวงการฟินเทคไทย
๑๖:๕๔ สบยช. ยืนยัน ชาเม่ คอลลาเจน ไม่มีสารเสพติด