ม.มหิดล ติด Top100 สาขาโรคติดเชื้อ และภูมิคุ้มกัน US News & World Report Rankings 2022

จันทร์ ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๐๘:๓๖
เมื่อเร็วๆ นี้ จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก US News & World Report Rankings 2022 มหาวิทยาลัยมหิดล ติดTop100 ถึง 2 สาขา คือ อันดับที่ 48 ของโลกในสาขาโรคติดเชื้อ (Infectious Diseases) และอันดับที่ 81 ของโลกในสาขาภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunology) ซึ่งโครงการวิจัยระดับเมกะโปรเจค "ภาวะการดื้อยาต้านมาลาเรียของชีวโมเลกุลในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในทศวรรษที่ผ่านมา" ซึ่งสามารถคว้ารางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานวิจัย ระดับดีมาก สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ปีงบประมาณ 2564 จาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ถือเป็นหนึ่งในผลงานอันโดดเด่นเด่นของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ส่งผลให้ติด Top100 ถึง 2 สาขาดังกล่าว

ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ หัวหน้าภาควิชาชีวโมเลกุลและพันธุศาสตร์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยฯ ผู้ทุ่มเทเวลานับทศวรรษในการเก็บกว่า 10,000 ตัวอย่างตัวบ่งชี้ทางชีวโมเลกุล (Biomarker) จากประชากรในพื้นที่เสี่ยงดื้อยาต้านไข้มาลาเรียทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ โรคไข้มาลาเรียยังมีการแพร่ระบาดทั่วโลกในอัตราที่สูงพอๆ กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19

ซึ่ง 10 ปีที่ได้ดำเนินการวิจัย ส่งผลให้นักศึกษาปริญญาโท-เอกที่ร่วมทำวิทยานิพนธ์กับโครงการฯ ทั้งที่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล และจากสถาบันต่างชาติที่ร่วมวิจัยกว่า 20 รายได้ไปถึงฝั่งฝัน โดย ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกาอิ่มวงศ์ ได้เล่าถึงบทบาทของทีมวิจัยและนักศึกษาว่า ต้องประสบกับความยากลำบากในการลงพื้นที่ห่างไกลเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำมาทดสอบทางชีวโมเลกุลต่อในห้องปฏิบัติการ ที่เป็นความร่วมมือจาก 25 หน่วยงาน หรือสถาบัน จากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน โดย หน่วยวิจัยโรคเขตร้อนมหิดล - ออกซ์ฟอร์ด เป็นแกนหลัก

จากความสำเร็จดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการทำวิจัย ซึ่งแม้ในอนาคตจะมีโรคอุบัติใหม่ใดๆ เกิดขึ้นอีกก็ตามหากนักวิจัย และประชาชนตื่นตัวและติดตามสถานการณ์โลกและพร้อมปรับตัวให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤติและเดินหน้าต่อไปได้นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโรคเขตร้อนที่ถูกละเลย ซึ่งไข้มาลาเรีย ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมาย SDGs3 ของสหประชาชาติ ที่มุ่งกำจัดให้หมดไปจากโลกภายในปีพ.ศ.2573 นี้ เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 10 ปีแล้ว จึงควรต้องมีการเร่งเครื่องและบูรณาการที่ถึงพร้อมด้วยองค์ความรู้ และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนการทำวิจัยให้ยั่งยืนต่อไป

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง