พิธีลงนามข้อตกลงดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และนายฌ็อง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส พร้อมด้วยคณะผู้แทนระดับสูงจากทั้งสองประเทศ
เวียตเจ็ทและซาฟรานจะขยายขอบเขตความร่วมมือไปสู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันในระยะยาว ซึ่งจะครอบคลุมข้อตกลงด้านเครื่องยนต์อากาศยานที่มากขึ้น รวมทั้งข้อตกลงด้านอื่น ๆ เช่น ที่นั่งโดยสาร และชิ้นส่วนตกแต่งภายใน โดยการลงนามในข้อตกลงในครั้งนี้ต่อเนื่องจากข้อตกลงเดิมที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกันผ่าน บริษัท ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล (CFM International) ด้านชิ้นส่วนและบริการเครื่องยนต์อากาศยาน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ซาฟรานยังจะให้บริการด้านการฝึกอบรบแก่เวียตเจ็ท เช่น การอบรมด้านการบริหารจัดการ และการอบรมด้านเทคนิค พร้อมทั้งสนับสนุนสายการบินฯ ในการวางรากฐานด้านการซ่อมบำรุงอากาศยานในเวียดนาม ทั้งนี้ เวียดเจ็ท และ ซาฟราน อิเล็คทรอนิคส์แอนด์ดีเฟ้นซ์ (Safran Electronics & Defense) จะเร่งขยายขอบเขตความร่วมมือเพื่อให้เวียตเจ็ทสามารถบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาโซลูชั่นด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเที่ยวบินที่ล้ำหน้าสำหรับฝูงบินของตน
"เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การเติบโตของเวียตเจ็ท" นายอเล็กซานเดอร์ ซีกเลอร์ รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายกิจการต่างประเทศและประชาสัมพันธ์ กล่าว "ข้อตกลงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นระหว่างกันระหว่างเวียตเจ็ทและซาฟราน รวมถึงการให้การยอมรับในความความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเรา"
ซาฟราน เป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติสัญชาติฝรั่งเศสผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับสูง ปฏิบัติการในอุตสาหกรรมการบิน เครื่องมือทางการทหาร และอวกาศ โดยได้รับการยอมรับในระดับโลก มีพนักงานทั้งสิ้น 76,000 คน รายได้รวมกว่า 16.5 พันล้านยูโร
ในฐานะสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ด้านจำนวนผู้โดยสารในประเทศ สายการบินเวียตเจ็ทให้บริการด้วยขนาดฝูงบินจำนวนกว่า 90 ลำ พร้อมเครือข่ายการบินที่ครอบคลุมทั่วทั้งเวียดนามและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องด้วยอากาศยานที่ทันสมัยในอนาคตอันใกล้
ที่มา: วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์