ส่องสปอตไลท์ความเรืองรอง "เซ็นทรัล อยุธยา" สะท้อนอัตลักษณ์เมืองกรุงเก่าบอกเล่าความเป็นไทยในมุมมองใหม่ พร้อมให้ทุกคนสัมผัสความ "อัศจรรย์อยุธยา" ในวันที่ 30 พ.ย. 64 นี้

ศุกร์ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๑๑:๐๕
จากความเรืองรองของเมืองหลวงเก่าอย่าง "อยุธยา" เมืองท่านานาชาติที่รุ่งเรืองที่สุดในแถบเอเชียในอดีต ยิ่งใหญ่ข้ามกาลเวลาสู่เมืองท่องเที่ยว UNESCO World Heritage ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องมาเยือน ในวันนี้อยุธยายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความ 'อัศจรรย์อยุธยา' ในอีกหลายแง่มุมที่รอให้ทุกคนไปสัมผัส โดยที่ 'เซ็นทรัล อยุธยา' ซึ่งกำลังจะเปิดตัวในวันที่ 30 พ.ย. 64 นี้ จะมาส่องสปอตไลท์ให้อยุธยาโดดเด่น นำเสน่ห์ความเป็นกรุงเก่าที่ยังคงกลิ่นอายและมนต์ขลังมาทวิสต์กับความโมเดิร์นที่มีความร่วมสมัย โดยยังคงสื่อถึงอัตลักษณ์เมืองกรุงเก่าอย่างอยุธยาด้วยจุดเด่นสถาปัตยกรรมสะดุดตาตั้งแต่ Facade ที่ได้แรงบันดาลใจจากเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ไปจนถึง Must-Visit Instagrammable Landmarks ในรูปแบบของดีไซน์ฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์สำคัญต่างๆ ภายใต้บรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยหรือ Thai Twist ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องถิ่น ได้แก่
  1. Facade ย่อมุมไม้สิบสองด้านหน้าศูนย์การค้า: สถาปัตยกรรมย่อมุมไม้สิบสอง เป็นแนวคิดของช่างในสมัยอยุธยา เป็นแบบสถาปัตยกรรมของไทย ซึ่งมีวิธีย่อมุมละ ๓ หยัก ๔ มุม รวมเป็น ๑๒ ดังจะเห็นได้จากเจดีย์ภูเขาทองที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  2. 'อยุธยา Outdoor Signature' บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า ที่คอยต้อนรับผู้มาเยือนด้วยTypo ตัวอักษรชื่อเมืองคำว่า "อยุธยา" ในรูปแบบ 3 มิติที่ตั้งอยู่บนพื้น ด้วยรายละเอียดบนแต่ละตัวอักษรที่ผ่านรูปแบบการลงเข็มกรองมาลัยออกมาเป็นรูปทรงของดอกไม้ชนิดต่างๆ อาทิ ดอกรัก ดอกพุดตูม ดอกมะลิ เป็นต้น ทำให้เกิดเป็นรายละเอียดที่อ่อนช้อยงดงาม มีมิติแสงและเงา ที่สร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันไปในเวลากลางวัน และกลางคืน
  3. 'ลานพระนคร' บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้า ด้วยการนำเสนอพื้นที่ผ่าน Typo ตัวอักษรไทยที่ออกแบบขึ้นใหม่โดยผสานรวมเอกลักษณ์ของดอกบัวเข้ากับตัวอักษรไทย ใช้วัสดุทองเหลืองเพื่อแสดงถึงคุณค่าและสะท้อนความงดงามอันเหนือกาลเวลา เพื่อเชิดชูความเรืองรองในอดีตของอยุธยาในฐานะศูนย์รวมช่างฝีมือที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ช่างเขียน ช่างเงิน ช่างทอง ช่างแกะสลัก ช่างหล่อ ช่างปั้นดินเผา ช่างไม้ ช่างจักสาน ช่างปูน เป็นต้น
  4. ประติมากรรมพานพุ่มดอกไม้: โถงทางเข้า ชั้น G เอกลักษณ์รูปทรงและลวดลายพานพุ่ม ศิลปะประณีตศิลป์ อันทรงคุณค่า นิยมใช้ในงานสักการะ หรือพระราชพิธีสมัยโบราณ ผสมผสานกับรูปทรงเรขาคณิตฟอร์มดอกบัวตูม ผสานเทคนิคสานเส้นลวดลายกลีบบัวสีทอง สื่อถึงความรุ่งเรือง โอบล้อมไปด้วยวิถีชีวิต ศิลปะประดิษฐ์ของพระนครศรีอยุธยา
  5. 'อู่ข้าว' บริเวณโซนชั้น G สะท้อนเอกลักษณ์ของบ้านไม้ใต้ถุนสูงของชาวอยุธยาที่นอกจากจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ใช้ระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากแล้ว ยังใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เช่น การพักผ่อน ทำงาน เลี้ยงสัตว์ และเก็บของใช้ได้อีกด้วย เราจึงต้องการนำเสนอมุมมองใหม่ของวิถีชีวิตเหล่านี้ในบรรยากาศสนุกสนานผสมผสานงานจักสานที่มีคุณค่า ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่ในบริบทใต้ถุนบ้าน เช่น ตุ๊กตาควายผูกผ้าขาวม้า ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของอยุธยา นอกจากนั้นยังมีเกวียนซึ่งปรับรูปแบบโครงสร้างจากไม้เป็นโลหะที่เรียบง่ายร่วมกับงานจักสาน รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์รูปแบบชานไม้ และกองฟางข้าว ที่มีสีสันและลวดลายแปลกตาออกไป
  6. 'อู่น้ำ' บริเวณโซนชั้น G โดดเด่นด้วยที่นั่งพักผ่อนรูปทรงสุ่มดักปลาขนาดใหญ่ เรือไม้ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะ จัดวางร่วมกับใบบัวและปลาตะเพียน รวมทั้งชุดที่นั่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากใบบัว สะท้อนความผูกพัน วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวอยุธยาที่มีต่อสายน้ำตั้งแต่กำเนิด ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของเกาะอยุธยาที่รายล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของคนอยุธยา อีกทั้งยังมีลำคลองแขนงอีกมากมาย โดยได้นำเอาวิถีชีวิตในอดีตของชาวอยุธยามาจัดองค์ประกอบใหม่ ผสมผสานทั้งเรื่องราวของตลาดน้ำ การประมง พืชพรรณธรรมชาติ และงานฝีมือเข้าไว้ด้วยกัน

นอกจากนี้ ยังมีจุดถ่ายรูปทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์สวยงามทั่วทั้งศูนย์การค้า ตั้งแต่ลานด้านนอก พบกับ "ลานบัว" จุดถ่ายรูปสระบัวฝั่งถนนอโยธยา, "เพลินนคร" อินดอร์มาร์เก็ตที่นำเอาวิถีชีวิตชุมชุนพื้นถิ่นสมัยกรุงศรีอยุธยาและการจำลองบ้านเรือนไทยมาออกแบบให้เป็นตลาดโบราณ ไปจนถึง "ห้องผ้าลายอย่าง", "ห้องจานจากถ้วยชามสังคโลก", "Co-Working Space ลายเบญจรงค์", และ "ห้องโคม" เป็นต้น

เซ็นทรัล อยุธยา ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'อัศจรรย์อยุธยา' เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 36 ของเซ็นทรัลพัฒนา เป็นแลนด์มาร์กและจุดหมายปลายทางที่จะส่งเสริมให้ 'อยุธยาของคนไทย' เป็น สปอตไลท์ระดับโลก ยกระดับความเรืองรองของเมือง UNESCO World Heritage ให้ทั่วโลกได้รู้จัก โดยเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันประกอบด้วย ศูนย์การค้า, Tourist Attraction, โรงแรม, ที่พักอาศัย, และคอนเวนชั่นฮอลล์ ที่จะเข้ามาเติบเต็มและยกระดับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมือง ผสมผสานเอกลักษณ์ของการเป็นเมืองมรดกโลก, ประวัติศาสตร์, อาหาร, สินค้าพื้นถิ่น เข้ากับความโมเดิร์น บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อ Transportation Hub สู่ภาคเหนือและอีสาน

ที่มา: เซ็นทรัลพัฒนา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว