การลงทุนครั้งนี้ช่วยสนับสนุนแผนการของบริษัทในการคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนาฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับแพลตฟอร์มคลาวด์ด้านพลังงาน พร้อมกับขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ในขณะที่รัฐบาลและองค์กรธุรกิจทั่วโลกกำลังยอมรับการใช้พลังงานที่สะอาดขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ Resync จะยกระดับการดำเนินงานในปัจจุบันให้แข็งแกร่งขึ้น และตั้งเป้าที่จะขยายทีมงานด้านการพัฒนาธุรกิจ การขาย วิศวกรรม รวมถึงการวิจัยและพัฒนา
เอเมียร์ นูรอฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Resync กล่าวว่า "ผมร่วมมือกับดร.จายันติกา โซนี จัดตั้งบริษัท Resync ขึ้นมา ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างแพลตฟอร์มคลาวด์ด้านพลังงานที่เปี่ยมด้วยอัจฉริยภาพและมีความโดดเด่น ซึ่งจะเป็นแนวหน้าในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลก เรารู้สึกขอบคุณยิ่งสำหรับการสนับสนุนจากบรรดานักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GGV Capital ซึ่งให้เงินทุนสนับสนุนในรอบ Series A และเชื่อมั่นในงานของเรา ทุกวันนี้ การใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานกำลังขยายตัวอย่างมาก ซึ่ง Resync ก็พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทั่วโลก และสร้างอนาคตด้านพลังงานที่มีประสิทธิภาพ อัจฉริยภาพ และยั่งยืนมากขึ้นเพื่อทุกคน"
เว่ยหาน เหลียว หุ้นส่วนร่วมทุนจาก GGV Capital กล่าวว่า "การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญในยุคนี้ เราเชื่อว่าเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ชั้นเลิศจะมีบทบาทสำคัญในการแสวงหาทางออกของปัญหา และแนวทางการใช้เทคโนโลยี AI ของ Resync ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพมหาศาลในการช่วยให้อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ใช้แหล่งพลังงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสร้างมูลค่าจากการลงทุนให้ได้มากที่สุด"
เขากล่าวเสริมว่า "เรายินดีที่ได้สนับสนุนผู้ก่อตั้งที่มีความมุ่งมั่นและเปี่ยมด้วยประสบการณ์อย่างเอเมียร์และจายันติกา โดย GGV Capital จะทำงานร่วมกับทั้งคู่เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจของพวกเขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ"
ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับความรู้ทางเทคนิคที่ลึกซึ้งในเรื่องระบบพลังงาน ส่งผลให้เทคโนโลยีสุดล้ำจาก Resync สามารถทำการวิเคราะห์ขั้นสูง เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน และประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับอาคารอัจฉริยะและแหล่งพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ
ปัจจุบัน โซลูชันของ Resync ถูกนำไปใช้ในอาคารต่าง ๆ กว่า 150 แห่ง รวมถึงแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 300 MWp โดยบริษัทมีลูกค้ากว่า 20 ราย ใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.resynctech.com
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1690544/Resync_Team.jpg