ผู้เชี่ยวชาญเตือนความเฉื่อยชาในการรักษาสุขอนามัยหลังยุคโควิดอาจทำให้ประชากรหลายล้านคนเสี่ยงเสียชีวิตจากการติดเชื้ออันเนื่องมาจากการดื้อยาต้านจุลชีพ

ศุกร์ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๐๒๑ ๑๕:๐๐
Global Hygiene Council (GHC) เรียกร้องให้ทุกคนรักษาสุขอนามัยด้วยการล้างมือ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อและลดผลกระทบจากการดื้อยาต้านจุลชีพ

โควิด-19 คร่าชีวิตประชากรโลกไปแล้วกว่า 5 ล้านคน ทั้งยังสร้างภาระอย่างหนักหน่วงต่อสังคมและระบบสาธารณสุขทั่วโลก ในขณะที่ทั่วโลกยังคงต้องรับมือกับผลกระทบของโควิด-19 กลับมีภัยคุกคามทางสาธารณสุขที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นและต้องจัดการอย่างเร่งด่วน นั่นคือ การดื้อยาต้านจุลชีพ ทั้งนี้ การรักษาสุขอนามัยมีบทบาทสำคัญในการยับยั้งการติดเชื้อ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในสถานการณ์โควิด-19 ทว่าผู้เชี่ยวชาญจาก GHC เกรงว่าเรากำลังมีความเฉื่อยชาในการรักษาสุขอนามัยหลังยุคโควิด ซึ่งจะทำให้ภัยคุกคามจากการดื้อยาต้านจุลชีพทวีความรุนแรงขึ้น

เมื่อเดือนที่แล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เผยแพร่รายงานว่าด้วยสถานะการล้างมือทั่วโลก เพื่อสรุปความสำคัญของการล้างมือในการป้องกันการติดเชื้อและลดภาระจากการดื้อยาต้านจุลชีพ ด้วยการยืดอายุการใช้งานของยาต้านจุลชีพ (เช่น ยาปฏิชีวนะ) ขณะที่ GHC ได้ขานรับการให้ความสำคัญกับการล้างมือมากขึ้น และสนับสนุนสัปดาห์รณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะในปีนี้ โดยมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้ยาต้านจุลชีพ ด้วยการส่งเสริมให้ล้างมือกันมากขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

ซาบิฮา เอสแซค โฆษกของ GHC และศาสตราจารย์จากวิทยาลัยเภสัชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยควาซูลู-นาทาล ประเทศแอฟริกาใต้ กล่าวว่า "การรักษาสุขอนามัยด้วยความรับผิดชอบ เช่น การล้างมือ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ และช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยาต้านจุลชีพ (เช่น ยาปฏิชีวนะ) นอกจากนั้นยังช่วยลดการแพร่เชื้ออย่างที่เราเห็นในสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นจึงควรส่งเสริมพฤติกรรมนี้ต่อไปหลังยุคโควิด"

การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นจะทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยาเกิดเร็วขึ้นและแพร่กระจายเร็วขึ้น โดยการติดเชื้อทั่วไปที่รักษาไม่สำเร็จเพราะแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 700,000 รายต่อปีทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10 ล้านรายต่อปีภายในปี 2593 ทั้งนี้ การรักษาสุขอนามัยในชีวิตประจำวันสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อทั่วไปได้สูงถึง 50% ทั้งยังช่วยลดการจ่ายยาปฏิชีวนะ และลดโอกาสในการเกิดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาต้านจุลชีพ

การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อมีแนวโน้มเกิดขึ้นอีกหลายครั้งนับจากนี้จนกระทั่งถึงปี 2573 ดังนั้น เราต้องรักษาสุขอนามัยให้เป็นนิสัยเพื่อปกป้องตนเองและคนที่รักจากภัยคุกคามของโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้น ตลอดจนลดภาระจากการดื้อยาต้านจุลชีพ และยืดอายุการใช้งานยาต้านจุลชีพ เช่น ยาปฏิชีวนะ ในอีกหลายปีข้างหน้า

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล: [email protected] และ โทร: +44 1444 811099



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๖ กทม. ประเมินผล Lane Block จัดระเบียบจราจรหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบรถแท็กซี่-สามล้อเครื่องจอดแช่ลดลง
๑๗:๐๓ สมาคมประกันวินาศภัยไทย Kickoff การใช้ข้อมูล Non-Life IBS พร้อมส่งมอบรายงานข้อมูลสถิติในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยของประเทศ
๑๗:๓๖ 3 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ ซื้อ SAV เคาะราคาเป้า 24-25 บาท/หุ้น คาดกำไร Q1/67 ทุบสถิติออลไทม์ไฮ รับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม เก็งผลงานทั้งปีโตเด่น
๑๗:๐๓ Minto Thailand คว้ารางวัล Best Official Account จาก LINE Thailand Award 2023
๑๗:๒๔ กทม. ตรวจสอบความปลอดภัยอาคาร ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ เตรียมพร้อมหน่วยเบสท์รองรับพายุฤดูร้อน
๑๗:๓๒ ไขข้อสงสัย.เมื่อซื้อแผงโซล่าเซลล์แล้วจะขนย้ายกลับอย่างไรให้ปลอดภัย โดย เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย)
๑๖:๔๕ ไทเชฟ ออกบูธงาน FHA Food Beverage 2024 ที่สิงคโปร์
๑๖:๕๓ เนื่องในวันธาลัสซีเมียโลก มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทย
๑๖:๓๕ EGCO Group จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration (ส่วนขยาย) อย่างเป็นทางการ
๑๖:๒๖ เพลิดเพลินไปกับเมนูพิเศษประจำฤดูกาล: อาหารจากแคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี ที่ โวลติ ทัสคาน กริลล์ แอนด์ บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา