LGT ตกลงซื้อหุ้นบริษัทบริหารความมั่งคั่งสัญชาติออสเตรเลีย "เครสโตน"

พุธ ๑๕ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๗:๑๕
LGT กลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงก์และการบริหารสินทรัพย์ในระดับนานาชาติที่มีราชวงศ์ลิกเตนสไตน์เป็นเจ้าของ ประกาศในวันนี้ว่าได้ลงนามในข้อตกลงตามเงื่อนไขเพื่อซื้อหุ้น 100% ของเครสโตน (Crestone Wealth Management) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของออสเตรเลียในด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ของนักลงทุนรายใหญ่ โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ล้านเหรียญออสเตรเลีย ทั้งนี้ ข้อตกลงนี้ซึ่งจะต้องผ่านการอนุมัติโดยผู้ถือหุ้นของเครสโตนก่อน นับเป็นก้าวสำคัญของ LGT ในการรุกตลาดการจัดการความมั่งคั่งของออสเตรเลียที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันยังช่วยให้เครสโตนสามารถขยายบริการและข้อเสนอการลงทุนให้แก่ลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เครสโตนเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการลงทุนและบริการจัดการพอร์ตโฟลิโอแก่นักลงทุนรายใหญ่หรือกลุ่ม high-net-worth และสำนักงานธุรกิจครอบครัว องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และสถาบันการเงินในออสเตรเลีย บริษัทได้ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2559 โดยได้เข้าซื้อกิจการของ UBS Wealth Management Australia และในปัจจุบัน บริษัทบริหารสินทรัพย์ของลูกค้าซึ่งมีมูลค่าประมาณ 25,000 ล้านเหรียญออสเตรเลีย [1] และมีพนักงาน 250 คน ซึ่งรวมถึงที่ปรึกษาการลงทุนมากกว่า 90 คน ณ สำนักงานในแอดิเลด บริสเบน เมลเบิร์น และซิดนีย์ เครสโตนมีผู้ถือหุ้นหลักประกอบด้วยกลุ่มผู้ก่อตั้ง ผู้จัดการ และพนักงาน 

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นของเครสโตน จะทำให้ LGT เป็นเจ้าของหุ้นเครสโตนทั้งหมด 100% ทั้งนี้ ข้อเสนอขายนี้มีมูลค่า 475 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (338 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยเครสโตนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจไพรเวทแบงก์ของ LGT

รุดหน้าต่อไปเพื่อลูกค้าและพนักงานของเครสโตน

LGT มุ่งมั่นที่จะรักษาและขยายรูปแบบธุรกิจของเครสโตนเดิมภายใต้การบริหารปัจจุบัน การเป็นพันธมิตรกับ LGT จะทำให้ที่ปรึกษา พนักงาน และลูกค้าของเครสโตนได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงบริการและโอกาสในการลงทุนระดับโลกที่มากขึ้นกว่าเดิม มุมมองใหม่ที่เป็นสากล ความเหมาะสมทางด้านวัฒนธรรมและการดำเนินงานที่ราบรื่นไร้รอยต่อ รวมถึงการต่อยอดบริการและการลงทุนระดับโลกและข้อเสนอการลงทุนของบริษัทให้กับลูกค้า

ไมเคิล ชิสโฮล์ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเครสโตน กล่าวว่า "ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เครสโตนได้เติบโตรุดหน้าจากการดำเนินการแสวงหาแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างพอร์ตโฟลิโอและโซลูชั่นการลงทุนให้แก่ลูกค้าของเรามาโดยตลอด ข้อตกลงที่กำลังเกิดขึ้นครั้งนี้จะทำให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่สูงขึ้นแก่ลูกค้าของเรา โดยอาศัยประสบการณ์ ทักษะ และข้อมูลเชิงลึกระดับสากลของบริษัทบริหารความมั่งคั่งชั้นนำเช่น LGT เราเชื่อว่า LGT เป็นเจ้าของธุรกิจระยะยาวที่จะทำให้เรามีความแข็งแกร่งในด้านการเงิน ในขณะที่ยังคงรักษาผลประโยชน์ของโครงสร้างความเป็นเจ้าของโดยเอกชนที่สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจของเราที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก"

LGT ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการธุรกิจไพรเวทแบงกิ้งและการบริหารความมั่งคั่งที่มีคุณภาพสูงทั่วโลก โดยได้รักษาลูกค้าและพนักงานภายในองค์กรไว้ การซื้อกิจการของ LGT ในครั้งนี้ย่อมทำให้ LGT วางรากฐานสำคัญในออสเตรเลียซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดการบริหารความมั่งคั่งที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จในการขยายแฟรนไชส์ธุรกิจไพรเวทแบงกิ้งในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลางมาแล้ว

เจ้าชายฟิลลิพ ฟอน อุนด์ ซู ลิกเตนสไตน์ ประธาน LGT เน้นย้ำว่า "เครสโตนเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่งที่มีชื่อเสียงและมีโอกาสในการเติบโตที่ยอดเยี่ยมในตลาดออสเตรเลีย เราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับพวกเขาอย่างใกล้ชิดในอนาคต ผมเชื่อว่าเราสามารถช่วยให้เครสโตนรุกตลาดได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่ยาวนานของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกลุ่มสินทรัพย์ทางเลือก การลงทุนที่ให้ความความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และการลงทุนที่สร้างให้เกิดผลกระทบทางบวกต่อส่วนรวม"

โอลิวีเยร์ เดอ เพอเรอโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LGT ไพรเวทแบงก์ กล่าวเสริมว่า "เครสโตนมีทีมที่ประสบความสำเร็จที่มีแนวคิดแบบผู้ประกอบการ แฟรนไชส์ลูกค้าที่น่าดึงดูด และมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นความลงตัวทางด้านกลยุทธ์และวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมสำหรับ LGT และการเข้าซื้อตามแผนนี้จะทำให้กิจการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเราที่แข็งแกร่งนั้นมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับพนักงานและลูกค้าของเครสโตนสู่ครอบครัว LGT ของเรา"

การเข้าซื้อกิจการซึ่งขึ้นอยู่กับมติผู้ถือหุ้นของเครสโตน รวมทั้งการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2565

เกี่ยวกับ LGT

LGT เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงก์และการจัดการสินทรัพย์ในระดับนานาชาติ ซึ่งบริหารงานโดยราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ มาเป็นเวลานานกว่า 90 ปี ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ระบุว่า LGT บริหารสินทรัพย์มูลค่ารวมทั้งสิ้น 275,000 ล้านฟรังก์สวิส (297,400 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับลูกค้ารายบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูงและลูกค้าระดับองค์กร LGT มีพนักงานมากกว่า 3,900 คน ในสำนักงานมากกว่า 20 แห่ง ในยุโรป เอเชีย อเมริกา และตะวันออกกลาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.lgt.com

[1] 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 17,000 ล้านฟรังก์สวิส ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564                                                                                    



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud