อวานี พลัส เกาะลันตา รีสอร์ท ได้รับการออกแบบโดย PIA สตูดิโอออกแบบชั้นนำของเมืองไทย โดยการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมศรีรายาหรือชุมชนเมืองเก่าลันตา ผนวกกับความเป็นไทย ผสานรากฐานและเรื่องราวของชาวมอแกน มุสลิม และจีน ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตั้งแต่สมัยที่เกาะลันตาแห่งนี้เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในทางการค้าและแลกเปลี่ยนสินค้าของกระบี่กับปีนังและประเทศสิงคโปร์
"การเปิดตัวของ อวานี พลัส เกาะลันตา รีสอร์ท เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับพันธมิตรของเรา และยังเป็นการตอกย้ำความสำเร็จว่าเราจะก้าวไปข้างหน้าและเติบโตต่อไปแม้ในช่วงเวลาอันแสนท้าทาย" มร.ดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ และกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ อวานี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท กล่าว "อวานี พลัส เกาะลันตา รีสอร์ท ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของเจ้าของกิจการในการลงทุนในรีสอร์ทระดับอัพสเกลเพื่อให้สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับและประทับใจได้มากยิ่งขึ้น"
สำหรับห้องพักรูปโฉมใหม่และพูลวิลล่าส่วนตัวทั้ง 92 ห้อง ได้รับการตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์วาดมือในลวดลายสไตล์มลายู ดัดแปลงมาจากลายต้นฉบับของงานแกะสลักไม้ของชาวมาเลเซียที่คนไทยรู้จักดีตั้งแต่สมัยที่มีการแลกเปลี่ยนสินค้าและทำการค้า เข้ากันอย่างดีกับกระเบื้องปูพื้นลวดลายดั้งเดิมของจีน
ห้องพักที่นี่แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ห้องพูล วิว (Pool View) ห้องพูล แอคเซส (Pool Access) และห้องซี วิว (Sea View) โดยห้องพักแบบพูลวิลล่ามาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยและความเป็นส่วนตัว พร้อมบรรยากาศของวิวยามเย็นอันสวยงามในช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเหนือทะเลอันดามัน
วิลล่า แกรนด์โอเชียนเรสซิเดนซ์ (Grand Ocean Residence) นับเป็นวิลล่าที่ดีที่สุดและตั้งอยู่ด้านบนสุดของของรีสอร์ท มีพื้นที่กว้างขวางพร้อมห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ครัว ตอบโจทย์ผู้ที่เข้าพักแบบกลุ่มใหญ่ และยังมีสวนส่วนตัวที่เหมาะสำหรับจัดงานฉลองหรืองานแต่งงานที่อบอุ่นและใกล้ชิดอีกด้วย
ในส่วนของห้องอาหาร ประกอบด้วยห้องอาหาร 3 แห่ง ได้แก่ แพนทรี บาย อวานี (Pantry by Avani) สำหรับการเริ่มต้นวันใหม่กับมื้อเช้าด้วยกาแฟที่หอมกรุ่นและขนมอบต่าง ๆ ในบรรยากาศสบาย ๆ ภายในห้องอาหารที่โล่งโปร่งสบายเปิดออกสู่สวนด้านนอก เดอะ คลิฟฟ์ (The Cliff) ห้องอาหารริมสระน้ำ ที่ให้บริการอาหารทะเลสดใหม่ที่ส่งตรงมาจากหมู่บ้านชาวประมงทุกวัน ปรุงด้วยวัตถุดิบจากตลาดผลผลิตอินทรีย์บนเกาะลันตา และ เรกเก้ บาร์ (Raggae Bar) ซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งโขดหินที่เป็นจุดชมทิวทัศน์อันสวยงามของบรรยกาศพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ให้ผู้มาเยือนได้จิบเครื่องดื่ม พร้อมชมความงดงามของทะเลอันดามันและพระอาทิตย์ตกได้แบบไม่มีสิ่งใดบดบังสายตา คลอเคล้าดนตรีที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกและสีสันในค่ำคืนที่แสนพิเศษ
ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะลันตา เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามสำหรับนักเดินทางที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยแขกผู้เข้าพักสามารถเริ่มต้นวันอย่างเต็มที่กับการออกกำลังกายที่ อวานีฟิต (AvaniFit) ห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ล้ำสมัย และโปรแกรมออกกำลังกายเพื่อให้หัวใจได้สูบฉีดเยี่ยมเต็มที่ อีกทั้งยังมี อวานีสปา (AvaniSpa) ให้ผู้เข้าพักสามารถเติมความสดชื่นผ่อนคลายหลังออกกำลังหรือกลับจากเที่ยวชมเกาะต่าง ๆ ด้วยบริการทรีตเมนต์ที่มีให้เลือกหลากหลาย
เกาะลันตา ตั้งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ 70 กิโลเมตร ในทางทิศใต้ โดยสามารถนำรถยนต์ข้ามฟากไปยังเกาะด้วยเรือแพขนานยนต์ในเวลาเพียง 15 นาที เกาะลันตามีกิจกรรมที่ใกล้ชิดธรรมชาติให้เลือกสนุกหลากหลาย ทั้งการอาบแดดบนชายหาดที่งดงามรอบเกาะ เที่ยวชมเกาะต่าง ๆ ที่รายล้อมถึง 50 เกาะ หรือล่องเรือแจวชมบรรยากาศธรรมชาติของป่าโกงกางทุ่งหยีเพ็ง สำหรับผู้ที่รักความตื่นเต้นใต้ท้องทะเล สามารถเลือกไปดำน้ำที่ใสราวกับกระจกที่เกาะห้า และปิดท้ายวันดี ๆ ด้วยการจิบเครื่องดื่มเย็นฉ่ำขณะล่องเรือชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ปัจจุบัน อวานี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท มีโรงแรมในเครือมากกว่า 30 แห่ง ทั้งในทวีปเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และ ยุโรป โดยมีแผนเปิดโรงแรมเพิ่มในหลายจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในเร็ว ๆ นี้ อาทิ เวียดนาม และมัลดีฟส์ รวมถึง อวานี พลัส ในเขาหลัก
ที่มา: ไมเนอร์ โฮเทลส์