BRI รับผลเชิงบวกจากโอมิครอน หนุนบ้านแนวราบขายดี หลังรัฐบาลประกาศมาตรการลดค่าโอน-จดจำนองกระตุ้นตลาดคึกคัก

จันทร์ ๒๗ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๐:๕๖
'บมจ.บริทาเนีย' หรือ BRI รับผลเชิงบวกจากความกังวล COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาด หนุนความต้องการซื้อบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตแบบ New Normal ตอกย้ำความสำเร็จแคมเปญ The new era of 6 เปิดตัว 6 โครงการคุณภาพ กวาดยอดพรีเซล 2 วันทะลุ 500 ล้านบาท มองตลาดบ้านแนวราบดีต่อเนื่อง หลังรัฐบาลประกาศมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง คาดช่วยกระตุ้นตลาดคึกคัก

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า หลังจากที่นำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ได้วางเป้าหมายสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงไตรมาส 4/2564 และแผนงานทยอยเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่องในปี 2565

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบันที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนในไทยและอีกหลายประเทศ ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม ส่งผลให้รัฐบาลตัดสินใจปิดระบบการรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศรายใหม่ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว นำมาสู่ความกังวลว่าอาจเกิดการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ และภาพรวมตลาดบ้านจัดสรร ทำให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานภายในที่แบ่งแยกเป็นสัดส่วน มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางกว่าเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งตอบสนองการใช้ชีวิตแบบ New Normal ได้เป็นอย่างดี

ผลเชิงบวกดังกล่าว เห็นได้จากการการจัดแคมเปญ The new era of 6 โดยเปิดจองรอบ VVIP Day บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม 6 โครงการใหม่ในไตรมาส 4/2564 เมื่อวันที่ 18 - 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่มีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมอย่างคึกคักในทุกโครงการและสามารถปิดยอดขาย (พรีเซล) ในช่วง 2 วันของการจัดงานได้ถึงกว่า 500 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงดีมานด์ในตลาดบ้านจัดสรรที่แข็งแกร่งและตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบ New Normal

นอกจากนี้ คาดว่าภาพรวมตลาดบ้านจัดสรรในปี 2565 ยังมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาประเมินและวงเงินจดจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะมีผลบังคับใช้นับจากวันที่ประกาศกฎกระทรวงในราชกิจจานุเบกษา ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งจะส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในกลุ่มระดับราคาดังกล่าว

"แม้ว่าปัจจุบันเริ่มมีความกังวลกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน จะส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจ แต่เรามองว่าเป็นผลเชิงบวกต่อความต้องการซื้อบ้านจัดสรร โดยในปี 2565 บริษัทฯ วางแผนเปิดโครงการใหม่อีก 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,800 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อตอบสนองดีมานด์ที่อยู่อาศัย" นางศุภลักษณ์ กล่าว

ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา