เชฟเจอราร์ดเป็นเชฟชาวสเปนที่มีประสบการณ์จากร้านอาหารระดับมิชลินหลายแห่ง โดยเชฟเริ่มต้นการทำงานด้านครัวจากตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ (Demi Chef de Partie) ที่ร้านอาหาร Roses Cantina ร้านอาหารเม็กซิกัน ในอัมสเตอร์ดัม และหลังจากนั้นไม่นานเชฟได้ร่วมงานกับห้องอาหารระดับดาวมิชลิน ซึ่งห้องอาหารระดับดาวมิชลินที่แรกก็คือ ห้องอาหาร เซล เบลอ (Ciel Bleu) ห้องอาหารที่ได้รับ 2 ดาว มิชลิน โรงแรม โอกุระ อัมสเตอร์ดัม (Hotel Okura Amsterdam) ในตำแหน่งหัวหน้าเชฟ ในปี 2554
จากนั้นในปี 2558 เชฟเจอราร์ดได้ย้ายไปร่วมงานกับห้องอาหารระดับมิชลินในหลายประเทศ อาทิ ห้องอาหาร Vendome ห้องอาหารระดับ 3 ดาวมิชลิน ซึ่งเป็นห้องอาหารที่มีชื่อเสียงในเมืองเบนส์เบิร์ก (Bensberg) ประเทศเยอรมนี ร้านอาหาร Daalder ร้านอาหารระดับ 1 ดาว มิชลิน ในอัมสเตอร์ดัม และร้านอาหาร De Librije ที่ได้รับรางวัล 3 ดาว มิชลิน จากเมืองซโวลเลอ (Zwolle) ประเทศ เนเธอร์แลนด์ อีกทั้งเชฟเจอราร์ดได้มองหาโอกาสในการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านอาหารอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เขายังได้ฝึกงานในร้านอาหารชั้นนำของโลกหลายแห่ง อาทิ Dinner by Heston Blumenthal ร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลิน ในลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร Azurmendi ร้านอาหารระดับ 3 ดาวมิชลิน ในเมืองบาสก์ (Basque) ประเทศสเปน และ Pierre Marcolini กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม อีกด้วย
เชฟเจอราร์ด มีประสบการณ์การทำอาหารกับห้องอาหารระดับมิชลินหลายแห่ง ทุกท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกลับไป เมื่อได้มารับประทานอาหารที่ห้องอาหาร เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ (Elements, inspired by Ciel Bleu) "ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับทีมงานของห้องอาหารเอเลเมสท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ และผมต้องตกหลุมรักเมืองไทยและผู้คนในที่นี้ย่างแน่นอน" เชฟเจอราร์ด กล่าวต่อว่า "ผมเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาสร้างสรรค์อาหารและนำเสนออาหารฝรั่งเศส ที่ผสมผสานกับวัตถุดิบพรีเมี่ยมตามฤดูกาล จากประเทศญี่ปุ่น เราจะยังคงสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้กับแขกของเราผ่านอาหารและมาตราฐานการบริการที่ดีเยี่ยม ผมเชื่อมั่นว่าผมจะนำเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมาสร้างสรรค์อาหารแนวใหม่และพัฒนาการบริการอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมฯ ให้ดียิ่งขึ้นไป
ที่มา: โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ