AspenTech คาดการณ์ด้าน AI ในปี 2565

พฤหัส ๐๓ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๒ ๐๘:๔๖
นายบิล สกัดเดอ์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป สายธุรกิจ AIoT Solutions แห่งแอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์ (Aspen Technology, Inc.) บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ (Asset optimization software) คาดการณ์การใช้งานของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในปีพ.ศ. 2565 ไว้ดังนี้
AspenTech คาดการณ์ด้าน AI ในปี 2565

1. ขุมความรู้ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติจะช่วยแก้ไขปัญหาแรงงาน

ในปัจจุบัน โลกกำลังเผชิญกับเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านบุคลากรคนทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเมื่อเกิดการลาออกครั้งใหญ่ของมนุษย์เงินเดือนที่เรียกว่า The Great Resignation ทั่วโลก ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากผลกระทบที่พนักงานได้รับจากการทำงานในระหว่างการระบาดของโควิด-19 ส่งให้คนทำงานได้กลับมาทบทวนอีกครั้งว่าจริงๆ ชีวิตการทำงานในรูปแบบที่ต้องการเป็นอย่างไร ซึ่งได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนเมษายนและกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อมีพนักงานลาออกทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ราวเดือนละ 4 ล้านคน อันเป็นเวลาเดียวกับที่พนักงานอาวุโสจำนวนมากกำลังเข้าสู่ช่วงเกษียณงาน ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อแรงงานในหลายอุตสาหกรรม ยิ่งไปกว่านั้น หากองค์กรเพียงแค่จะทดแทนแรงงานเดิมด้วยแรงงานใหม่ที่เพิ่งจบออกมาจะไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ดีนัก เนื่องจากบ่อยครั้งที่แรงงานที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาใหม่เหล่านี้ยังจะไม่มีเทคโนโลยีและการฝึกจากสถาบันการศึกษาที่ตรงกับเวิร์กโฟลว์และระบบต่างๆ ที่ปฏิบัติงานจริงในโรงงาน

ปัญหาทั้งหมดนี้จึงเป็นพลังเร่งการใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่จะสร้างขุมความรู้ให้ทำงานเป็นแบบอัตโนมัติ (Knowledge automation) ครั้งใหญ่ในปี 2565 นี้ ซึ่งคาดหวังว่าการแบ่งปันความรู้ได้โดยอัตโนมัติและแอปพลิเคชันที่ชาญฉลาดขององค์กรจะช่วยปิดช่องว่างทักษะที่เกิดขึ้นระหว่างคนทำงานที่ลาออกไปและคนทำงานรุ่นใหม่ลงได้ โดยจะรักษาขุมความรู้ที่ได้สะสมมาและทำให้มีวิธีการเข้าถึงขุมความรู้ได้อย่างกว้างขวาง ข้ามกำแพงแผนกและฝ่ายต่างๆ กรอบความคิดนี้ให้ประโยชน์ 2 ประการ คือ จะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการสรรหาบุคลากรรุ่นใหม่ และสร้างให้งานนั้นมีความน่าสนใจสำหรับผู้สมัครใหม่ด้วย เนื่องจาก เมื่อคนทำงานสามารถหาความรู้ได้อย่างอัตโนมัติ จะทำงานง่ายขึ้น และจะประสบความสำเร็จในการทำงานมากขึ้น

2. เกิดนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลระดับอุตสาหกรรมเพื่อรองรับกลยุทธ์ Industrial AI

ปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังสร้างเทรนด์ใหม่อีกประการ คือ จะเกิดนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลอุตสาหกรรม (Industrial data scientist) ขึ้นมากมายที่จะเข้ามามีบทบาทเป็นศูนย์กลางในการปรับใช้และบริหารเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง Industrial AI เหล่านี้ให้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ แอสเพ็นเทคจึงจัดการวิจัยเพื่อให้เข้าใจว่าองค์กรอุตสาหกรรมนำ AI มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปทางดิจิทัลอย่างไร โดยได้สำรวจกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีและการปฏิบัติงานในอเมริกาเหนือและยุโรป 200 คนจากทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงบริษัทด้านวิศวกรรม เคมีภัณฑ์ พลังงาน น้ำมันและก๊าซ เภสัชกรรม รวมทั้งโลหะและเหมืองแร่ ทั้งนี้ ผลการวิจัยได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของการนำ Industrial AI มาใช้ รวมถึงอุปสรรคขัดขวางองค์กรไม่ให้ตระหนักถึงคุณค่าของ Industrial AI อันได้แก่คุณภาพและการจัดการข้อมูลระดับอุตสาหกรรม การขาดความร่วมมือระหว่างทีมที่เกี่ยวข้องและการทำงานแบบไซโล และขาดกลยุทธ์ที่ชัดเจนสำหรับ Industrial AI

ผลการวิจัยเปิดเผยว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจในอุตสาหกรรมจำนวน 84% ยอมรับว่าต้องการใช้กลยุทธ์ Industrial AI เพื่อขับเคลื่อนความได้เปรียบทางการแข่งขัน และจำนวน 98% ยอมรับว่ามีปัญหาอย่างน้อย 1 ด้านที่ยังเป็นปัญหาต่อธุรกิจขององค์กร แต่มีองค์กรจำนวนเพียง 35% เท่านั้นที่ใช้กลยุทธ์ Industrial AI ที่ได้วางไว้นั้นจนถึงตอนนี้ ดังนั้น เมื่อองค์กรมีศาสตร์ด้านข้อมูลแบบดั้งเดิมและมีความเชี่ยวชาญอันเป็นเฉพาะด้าน จะส่งให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลระดับอุตสาหกรรมในองค์กรมีบทบาทสำคัญเป็นผู้ขับเคลื่อนในการสร้างและปรับใช้กลยุทธ์ Industrial AI จนสำเร็จได้

3. เปลี่ยนการลงทุนในโมเดล AI ทั่วไปเป็น Industrial AI ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

ในปีพ.ศ. 2565 เราจะเห็นการใช้งาน AI ในรูปแบบ Industrial AI เต็มประสิทธิภาพ เราจะเห็นองค์กรอุตสาหกรรมจำนวนมากขึ้นเปลี่ยนการลงทุนจากในโมเดล AI ทั่วไปไปเป็นแอปพลิเคชันประเภท Industrial AI ที่แม่นยำและเหมาะสมตรงกับวัตถุประสงค์มากขึ้น ซึ่งช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านผลกำไรและความยั่งยืนอีกด้วย อีกนัยหนึ่งคือ จะลดจำนวนการใช้โมเดล AI ที่ออกแบบมาเพื่อข้อมูลโรงงานจำนวนมากแต่ไม่สามารถให้ประโยชน์แก่การปฏิบัติงานที่เป็นไปได้ทั้งหมด และจะเพิ่มการใช้โมเดล Industrial AI ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งใช้การวิเคราะห์เชิงลึกและการเรียนรู้ด้วยตนเองของคอมพิวเตอร์ผนวกกับความเชี่ยวชาญในการตีความและการคาดการณ์ในการปฏิบัติงาน จึงทำให้ข้อมูลระดับอุตสาหกรรมจะถูกแปลงเป็นผลกำไรทางธุรกิจตลอดวงจรชีวิตของสินทรัพย์ทั้งหมด

ประโยชน์อีกประการ คือ จะช่วยให้เกิดการประสานการทำงานระหว่างพันธมิตรที่ใช้ Industrial AI ที่ดีที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ ความร่วมมือต่างๆ จะเน้นที่การใช้เทคโนโลยีที่ได้รับจากบริการหรือผู้จำหน่ายรายใหญ่เพียงรายเดียวเป็นศูนย์กลาง แต่หาก Industrial AI ที่มุ่งเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจะต้องการผู้ให้บริการโซลูชันจำนวนมากขึ้นในการทำหน้าที่รวบรวมความเชี่ยวชาญทั้งหลายเข้ามาทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม จึงช่วยลดการทำงานใน AI รูปแบบทั่วไปให้น้อยลง

4. ผู้บริหารร่วมรับผิดชอบ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ซึ่งช่วยเร่ง Industrial AI ให้เร็วขึ้น

เมื่อองค์กรอุตสาหกรรมขยายการใช้งานกลยุทธ์และแอปพลิเคชัน Industrial AI ไปทั่วทั้งองค์กร ผู้บริหารย่อมร่วมรับผิดชอบเป็นเจ้าของกลยุทธ์สำคัญนี้ และเมื่อผนวกกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการปฏิรูปทางดิจิทัลในองค์กร ย่อมจะให้ได้รับผลประโยชน์จำนวนมาก ตัวอย่างคือ ประธานบริหารด้านดิจิทัลในองค์กร เช่น Chief Digital Officers (CDO) จะมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขอุปสรรคต่างๆ CDO จะมีบทบาทที่เฉพาะในการดูแลการปฏิรูปทางดิจิทัลและ Industrial AI ให้เกิดทั่วทั้งองค์กร โดยจะเชื่อมช่องว่างระหว่างระบบเดิมกับเทคโนโลยีใหม่ ส่งเสริมการทำงานร่วมกันข้ามไซโล และเปลี่ยนจากการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากเป็นการจัดการข้อมูลเชิงกลยุทธ์ทางอุตสาหกรรม หน้าที่ทั้งหมดเหล่านี้มีความสำคัญมากเพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรอุตสาหกรรมสามารถดำเนินการตามแผนการปฏิรูปทางดิจิทัลที่ใช้กลยุทธ์สร้างแอปพลิเคชัน Industrial AI ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

เกียวกับแอสเพ็นเทค

แอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์เป็นบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ทางอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ใช้ในการบริหารประสิทธิภาพของสินทรัพย์ในองค์กร ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของแอสเพ็นเทคจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมที่การปฏิบัติงานในสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนสูงมาก และให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบการใช้สินทรัพย์ ในการปฏิบัติงาน และในการบำรุงรักษาสินทรัพย์ในองค์กรให้คุ้มค่ามากที่สุด

ทั้งนี้  แอสเพ็นเทคมีความโดดเด่นเหนือใคร ในการใช้ความชำนาญด้านการสร้างแบบจำลองของกระบวนปฏิบัติการเข้ากับเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่งในแหล่งข้อมูลบิ๊กดาต้าขนาดใหญ่  โดยแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่แอสเพ็นเทคที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะนี้ จะช่วยทำให้การทำงานเป็นไปอย่างอัตโนมัติและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน ให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุนตลอดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ทั้งหมด  ซึ่งจะเอื้อให้องค์กรต่างๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เงินทุนสูงสามารถเพิ่มเวลาทำงานได้สูงสุด ขยายขีดจำกัดของประสิทธิภาพให้สูงขึ้น และใช้สินทรัพย์ของตนได้เร็วขึ้น ปลอดภัยมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ AspenTech.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ที่มา: คอมมิวนิเคชั่น อาร์ต

AspenTech คาดการณ์ด้าน AI ในปี 2565

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว