นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รษก.) บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า ผลการประเมินที่ออกมาถือเป็นความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล สอดคล้องกับค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ซีพี ออลล์ ยึดมั่นและตระหนักเสมอมาว่า การเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น จะต้องมุ่งสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติเป็นอันดับแรก ตามด้วยสังคม และองค์กร
"ซีพี ออลล์ เลื่อนชั้นขึ้นจากระดับเหรียญเงิน (Silver Class) เมื่อปีที่แล้ว เป็นเหรียญทอง (Gold Class) และเป็นองค์กรเดียวของโลกที่ได้รับการประเมินให้อยู่ในระดับสูงสุด สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุดของเรา โดยจากบริบทที่ระบุไว้ในรายงานถึงปัจจัยด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ยกระดับประสิทธิภาพเชื่อมโยงการให้บริการกับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง เราได้พัฒนารูปแบบการให้บริการที่หลากหลายไร้รอยต่อภายใต้กลยุทธ์ O2O ทั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 13,000 สาขา ช่องทาง ALL Online บริการเซเว่น เดลิเวอรี่ และShop@24 โดยยังคงคำนึงถึงคุณค่าความยั่งยืนในทุกมิติ" นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรม ธุรกิจค้าปลีกอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค (Food & Staples Retailing) ซึ่งเป็น 1 ใน 61 กลุ่มอุตสาหกรรมใน The Sustainability Yearbook 2022 ของ S&P Global มีบริษัทที่เข้ารับการประเมินทั้งสิ้น 119 องค์กร รวมมูลค่าตลาด 1,444.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มีเพียง 13 องค์กรเท่านั้นที่ผ่านการประเมินระบุไว้ในรายงานฉบับนี้ โดย ซีพี ออลล์ เป็นบริษัทเดียวที่อยู่ในระดับเหรียญทอง (Gold Class) ขณะที่ ระดับเหรียญเงิน (Silver Class) มี 3 บริษัท และระดับเหรียญทองแดง (Bronze Class) มี 9 บริษัท ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
ที่มา: ซีพี ออลล์
