"Pepsi Super Bowl LVI Halftime" ในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันของ Pepsi, NFL และ Roc Nation เป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่เคยร่วมงานกันเมื่อปี 2020 โดยครั้งแรกเป็นการแสดงของ Jennifer Lopez และ Shakira ใน Super Bowl LIV ที่ไมอามี และครั้งที่ 2 เป็นการแสดงของ The Weeknd ใน Super Bowl LV ที่แทมปา ฟลอริดา โดย Dr. Dre ได้พูดถึงการแสดงในครั้งนี้ว่า "การได้ขึ้นแสดงในโชว์พักครึ่งของ Super Bowl และได้แสดงที่เมืองของตัวเอง และจะเป็นหนึ่งในการแสดงที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตศิลปินสำหรับผม" Mary J. Blige ก็ได้กล่าวเสริมว่า "โชว์นี้จะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการเพลง และ LA จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป"
ในส่วนของโชว์ ก็เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากสองศิลปินระดับตำนานรุ่นเก๋าอย่าง "Dr. Dre" และ "Snoop Dogg" ไฮป์แฟนๆ ทั้งสเตเดียมกับเพลงฮิต "The Next Episode" และต่อด้วย California Love ทำให้อดไม่ได้ที่จะโยกตัวเอนจอยไปกับจังหวะดนตรี ศิลปินหญิงยืนหนึ่ง "Mary J Bride" เจิดจรัสไม่แพ้หนุ่มๆ กับ Costume สีขาวสะกดทุกสายตา โชว์เสียงร้องทรงพลังให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงกับเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง Family Affair และ No More Drama ที่สื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ได้ให้แฟนๆ มีเวลาพักหายใจ "Kendrick Lamar" ปรากฏตัวในสนามกับกองทัพแดนเซอร์ในชุดดำที่ยืนกันในกล่องสี่เหลี่ยมที่เขียนว่า Dre Day ประหนึ่งจำลองการยืนในห้องพิจารณาคดีความ กับการแสดงเพลง Alright จากอัลบั้ม To Pimp a Butterfly อีกหนึ่งเพลง ไอคอนิคที่กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชนเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย
เท่านั้นยังไม่พอเจ้าพ่อแรปเปอร์อย่าง Eminem ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เปิดตัวก็แรปรัวจัดเต็ม ต่อด้วยการโชว์เพลงฮิตระดับรางวัล Oscar อย่าง Lose Yourself เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง 8 Mile มันดุเดือดถึงใจ แถมได้ Anderson .Paak มาเสริม Energy ให้โชว์มันขึ้นไปอีกระดับ ปิดท้ายด้วย "Dr. Dre" โชว์เล่นเปียโนเพลงฮิตอย่าง Still D.R.E. พร้อมลุกขึ้นแรปร่วมกับ Snoop Dogg
ที่มา: ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย)
