Tinder เชื่อมต่อความรู้สึกรูปแบบใหม่กับฟีเจอร์ 'Blind Date'

ฟีเจอร์ Blind Date ได้รับแรงบันดาลใจจากวิธีการออกเดทในอดีตที่มักพบได้เสมอจากการแนะนำให้รู้จักกันผ่านเพื่อนสนิท ซึ่งวิธีนี้สามารถนำกลับมาใช้เพื่อช่วยให้คู่เดทในปัจจุบันมีความกดดันน้อยลง โดยการให้ความสำคัญกับนิสัยใจคอก่อนเป็นอันดับแรก ประสบการณ์การเดทนี้ยังแสดงให้เห็นถึงวิธีการออกเดทของคน Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับการเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง และยังชวนให้นึกถึงการออกเดทในยุค 90 ก่อนที่ทุกคนจะมีสมาร์ทโฟนอีกด้วย ทั้งนี้ในช่วงแรกของการทดสอบ สมาชิกที่ใช้ฟีเจอร์ Blind Date จะลงเอยด้วยการ Match มากกว่า 40% เมื่อเทียบกับผู้ใช้ฟีเจอร์ Fast Chat อื่นๆ ที่อนุญาตให้สมาชิกเห็นโปรไฟล์ของอีกฝ่ายได้เลย นี่จึงเป็นโอกาสในการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของทั้งสองฝ่ายที่พร้อมจะพูดคุยกับคู่เดทที่อาจถูกมองข้ามไปเนื่องจากการตั้งค่าต่างๆบนแอพฯ

หากถามว่าฟีเจอร์ Blind Date นี้ใช้งานอย่างไร ก่อนอื่นเลย สมาชิกจะต้องตอบคำถามสั้นๆ เพื่อที่ระบบจะทำการจับคู่โดยพิจารณาจากสิ่งที่พวกเขามีหรือคิดเหมือนกัน จากนั้นจะเข้าสู่การแชทแบบจับเวลา โดยไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลที่กำลังพูดคุยอยู่ด้วย นอกจากคำตอบที่ระบบตั้งไว้ เช่น "คุณสามารถใส่เสื้อซ้ำกันได้ ครั้งโดยไม่ต้องซัก" และ "ฉันใส่ซอสมะเขือเทศลงไปใน " และเมื่อเวลานับถอยหลังการแชทจนหมด พวกเขาสามารถกด Like โปรไฟล์ของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งหากทั้งคู่เลือก Match กัน ระบบจะเปิดเผยให้เห็นว่าเป็นใคร หรือพวกเขาสามารถเลือกที่จะจับคู่กับคนใหม่ต่อได้

นายไคล์ มิลเลอร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Tinder กล่าวว่า "เราทุกคนต่างเคยเห็นความตื่นเต้นและความคาดหวังเมื่อตัวละครตัวโปรดในหนังหรือละครไปนัดบอด และ Tinder ต้องการสร้างประสบการณ์แบบนั้นอีกครั้งเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสถึงความรู้สึกดังกล่าวผ่านฟีเจอร์ Blind Date ที่มีความพิเศษด้วยการใช้บทสนทนาเป็นตัวเปิดในการทำความรู้จักกันผ่านนิสัยและความคิด โดยไม่มีการคาดหวังจากรูปลักษณ์มาเป็นตัวแปร ฟีเจอร์ Blind Date จะทำให้ประสบการณ์เดทของสมาชิกมีความสนุกสนานแบบที่คาดไม่ถึงที่และช่วยสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆให้กับสมาชิก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับ Tinder"

สมาชิกสามารถพบกับฟีเจอร์ Blind Date ได้บน Tinder Explore ซึ่งเป็นพื้นที่สร้างคอนเน็กชั่นแบบใหม่บน Tinder คล้ายกับการสแกนคนในชีวิตจริงที่ทุกคนสามารถเลือกใช้ในการพบปะผู้คนใหม่ๆ ได้ โดยมอบทางเลือกแก่สมาชิกในการดูโปรไฟล์ที่จัดเรียงตามความสนใจ และมอบประสบการณ์โซเชียลเอ็กซ์พีเรียนซ์ใหม่ๆที่มากยิ่งขึ้น เช่น Hot Takes, Vibes, Swipe Night, Music Mode และล่าสุดอย่าง Blind Date

Blind Date ให้บริการในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษแล้ว และจะให้บริการภาษาไทยเร็วๆ นี้

ที่มา: PR Room