ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เป็น 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' จาก 'แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ' คงอันดับเครดิต ที่ 'A-'

พุธ ๐๙ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๔:๐๑
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local-Currency Issuer Default Ratings) ของธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SCBT เป็น 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีสเถียรภาพ' จาก 'แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ' และคงอันดับเครดิตที่ 'A-' พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น (Short-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะสั้น (Short-Term Local-Currency Issuer Default Ratings) ที่ 'F1' และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AAA(tha) และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)'

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวมีปัจจัยพิจารณามาจากการที่ฟิทช์ทำการทบทวนปัจจัยการให้การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น โดยผู้ถือหุ้นโดยตรงของ SCBT ได้เปลี่ยนจาก Standard Chartered Bank ในสหราชอาณาจักร (SCB, A+/Negative/a) เป็น Standard Chartered Bank (Singapore) (SCBS; A+/Stable/a) หลังจากการจัดตั้งศูนย์กลางของกลุ่มสำหรับภูมิภาคอาเซียนซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์แล้วเสร็จ ฟิทช์มองว่าการเชื่อมโยงการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ SCBT กับกลุ่ม SCB ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่การสนับสนุนพิเศษ (extraordinary support) ในกรณีที่จำเป็นน่าจะส่งผ่านมาจาก SCBS ดังนั้นการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ SCBT นั้นเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มอันดับเครดิตของ SCBS

พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ยกเลิกอันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) เนื่องจากอันดับเครดิตดังกล่าวมิได้มีนัยสำคัญเพียงพอในการติดตามวิเคราะห์อีกต่อไป หลังจากที่มีการปรับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 และเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่นี้ ฟิทช์ให้อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น (Shareholder Support Rating: SSR) ที่ 'a-'

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและอันดับเครดิตสากลของ SCBT พิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น การประกาศคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ SCBT สะท้อนถึงการมีโอกาสสูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจาก SCBS ซึ่งเป็นธนาคารแม่โดยตรงรายใหม่ ในกรณีที่จำเป็น โดยพิจารณาจากการถือหุ้นเกือบทั้งหมดในธนาคารลูกในประเทศไทย (99.9%) บทบาทของ SCBT ในการสนับสนุนธุรกิจระดับภูมิภาคของกลุ่ม การเชื่อมโยงการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด และความเสี่ยงด้านผลกระทบต่อชื่อเสียงที่สูงซึ่งอาจเกิดขึ้นหากธนาคารลูกในประเทศไทยผิดนัดชำระหนี้ อันดับเครดิตสากลของ SCBT อยู่ต่ำกว่าอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของธนาคารแม่อยู่ 1 อันดับเนื่องจากธนาคารมีบทบาทสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่แต่ตั้งอยู่ในตลาดที่ไม่ใช่เป้าหมายหลักสำหรับกลุ่ม (non-core market) อันดับเครดิตสากลของ SCBT ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นธนาคารลูกที่มีสาระสำคัญในแผนการฟื้นฟูกิจการของกลุ่มและยังมีความไม่แน่นอนว่า SCBT จะได้รับประโยชน์จาก qualifying junior-debt buffer ของกลุ่ม

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBT พิจารณาจากการให้การสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตเครดิตภายในประเทศจากฟิทช์ ฟิทช์เชื่อว่าโครงสร้างอันดับเครดิตของ SCBT ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากธนาคารแม่มีความสอดคล้องกับอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เนื่องจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศของ SCBT สูงกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ 'BBB+'

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับตัวลดลงในความสามารถของ SCBS ที่จะให้การสนับสนุนแก่ SCBT (ซึ่งสะท้อนโดยอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร) จะส่งผลให้อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของธนาคารและอันดับเครดิตสากลของ SCBT ได้รับการปรับลดอันดับ

การปรับตัวลดลงของโอกาสที่ SCBS จะให้การสนับสนุนแก่ SCBT อาจส่งผลให้อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและอันดับเครดิตสากลของธนาคารลูกได้รับการปรับลดอันดับ ตัวอย่างเช่น การลดสัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารแม่ลงต่ำกว่า 75% พร้อมทั้งการลดลงของอำนาจควบคุมการบริหารงานและความเชื่อมโยงทางธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่ากรณีดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้นในระยะสั้น

การปรับลดเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (ที่ 'A-') จะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของ SCBT ถูกปรับลดอันดับ

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBT อาจได้รับการปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศของธนาคารถูกปรับลดอันดับจนอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ 'BBB+' แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์จะพิจารณาความแข็งแกร่งโครงสร้างเครดิตของ SCBT เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศจากฟิทช์ด้วยเช่นกัน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับตัวเพิ่มขึ้นของความสามารถหรือโอกาสของธนาคารแม่ในการให้การสนับสนุนให้แก่ SCBT อาจส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของ SCBT ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะไม่ได้รับการเพิ่มอันดับ หากไม่ได้มีการปรับเพิ่มเพดานอันดับเครดิต (Country Ceiling) ของประเทศไทยที่ 'A-'

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะสั้นอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของ SCBT ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นไม่น่าจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเนื่องจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBT อยู่ในระดับที่สูงที่สุดแล้วจึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับได้

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ SCBT มีความเชื่อมโยงกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBS

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ EBG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดของ SCBT มีดังนี้

  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-' ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' จาก 'แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ'
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1'
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-' ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น 'แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' จาก 'แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ'
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1'
  • อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'bbb'
  • ยกเลิกอันดับเครดิตสนับสนุน
  • ให้อันดับเครดิตสนับสนุนจากผู้ที่หุ้นที่ 'a-'
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'

ที่มา: ฟิทช์ เรทติ้งส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud