ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เปิดบ้านโชว์ระบบปฏิบัติการท่าเทียบเรือสุดอัจฉริยะ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

พฤหัส ๑๐ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๑:๑๓
บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ผู้นำในการดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือขนถ่ายตู้บรรจุสินค้า ขานรับนโยบายของกลุ่มบริษัทฮัทชิสัน พอร์ท เพื่อบรรลุภารกิจในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 11 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2573 ด้วยการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบปฏิบัติงาน ได้แก่ รถบรรทุกขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ (autonomous truck) ปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าควบคุมจากระยะไกล (remoted control super post panamax ship to shore cranes) และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยาง (remote-control rubber tyred yard cranes) ณ ท่าเทียบเรือชุดดี ของ HPT ที่ท่าเรือแหลมฉบัง
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เปิดบ้านโชว์ระบบปฏิบัติการท่าเทียบเรือสุดอัจฉริยะ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

ทั้งนี้ ขณะที่ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เดินหน้าตามแผนการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตามแนวทางด้านความยั่งยืน บริษัทฯ ยังเดินหน้าในการปรับระบบการทำงานที่ตอบรับกับความเปลี่ยนแปลง มีการเชื่อมโยงกับความต้องการของผู้รับบริการ และนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในด้านการขนส่งมาใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพให้รองรับในด้านบริการที่ครอบคลุมเรือสินค้าไม่ว่าขนาดใด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นไปเพื่อเป้าหมายของการส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (Eastern Economic Corridor: EEC) รวมถึงการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคอีกด้วย

ในปี 2564 มูลค่าการนำเข้าของประเทศไทยเพิ่มขึ้น 29.8 เปอร์เซ็นต์ ด้วยมูลค่ารวมที่ 267.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 17.1 เปอร์เซ็นต์ ด้วยมูลค่ารวมที่ 271.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

การริเริ่มด้านการพัฒนาของ HPT นี้ดำเนินไปเพื่อตอกย้ำถึงแนวทางการพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของบริษัทและประเทศไทย โดยมุ่งเน้นในสามเรื่อง คือ

  • สภาพแวดล้อม: เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ให้คำมั่นที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและขยะจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจหลักของกลุ่มบริษัทฮัทชิสัน พอร์ท ที่มุ่งในการลดการใช้พลังงานดีเซลต่อ TEU ลง 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปีจนถึงปี 2566 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 11 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2573 และเพื่อให้แผนงานดังกล่าวสำเร็จลุล่วง บริษัทฯ มีการนำรถบรรทุกระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ปั่นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าควบคุมระยะไกล ระบบ 5G สำหรับอุปกรณ์ควบคุมระยะไกล รวมถึงการใช้ปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานควบคุมจากระยะไกล และเปลี่ยนไปใช้ช่องทางผ่านเข้าออกท่าเทียบเรือแบบอัตโนมัติ อีกทั้งการใช้ระบบดิจิทัลและยกเลิกเอกสารกระดาษอย่างบริการผู้ช่วยออนไลน์และการนัดหมายรับส่งตู้สินค้า มีการสร้างเครื่องใช้ต่างๆ จากสิ่งของเหลือใช้ ซึ่งเป็นดั่งคำมั่นสัญญาที่บริษัทฯ ให้ไว้ว่าจะก้าวสู่การเป็นธุรกิจสีเขียวเป็นมิตรกับโลกและสิ่งแวดล้อม
  • บุคคลากร: แผนการพัฒนาด้านบุคลากรที่ประกอบไปด้วยโปรแกรมเสริมสร้างสุขภาพร่างกายและจิตใจเพื่อสนับสนุนให้พนักงานของบริษัทก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้อย่างเหมาะสม การพัฒนาคุณภาพชีวิตในชุมชนเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ของบริษัท ซึ่งทำให้ HPT ได้สร้างสัมพันธ์กับชุมชนรอบ ๆ รวมทั้งได้ริเริ่มดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนร่วมกับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล
  • ธุรกิจ: การสร้างความแข่งแกร่งด้านบรรษัทภิบาล โดย HPT จะเพิ่มการประเมินผลซัพพลายเออร์ในขั้นตอนการคัดเลือกผู้รับเหมาที่จะมารับงานจากบริษัทที่เป็นไปตามเกณฑ์ด้านความยั่งยืน อันจะเป็นการสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้นว่าทุก ๆ ขั้นตอนในการดำเนินการมีความโปร่งใส และทำให้ทั้งซัพพลายเออร์และลูกค้ามีความมั่นใจในมาตรฐานด้านกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของ HPT

มร. สตีเฟ้นท์ อาร์ชเวิรท กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทย และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า "การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและการเติบโตของธุรกิจจะต้องทำควบคู่กันไป นับเป็นสิ่งสำคัญที่การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ จะช่วยสร้างคุณค่าให้กับการดำเนินธุรกิจของเรา ขณะเดียวกันยังเป็นการลดการเกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์อีกด้วย การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อพันธกิจของพวกเราที่จำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างในวิธีการทำงานของเรา และผมเองก็รู้สึกยินดีกับความคืบหน้าต่าง ๆ ที่ได้ทำให้บังเกิดขึ้นมา บริษัทของเรามีการตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับท่าเรือทุกแห่งในเครือทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง และผมมั่นใจว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ ไปพร้อม ๆ กับที่เราเดินหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในแผนระยะยาว"

ปัจจุบันท่าเทียบเรือชุดดี ของ HPT กำลังเข้าสู่การก่อสร้างส่วนที่เหลือซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ถึง 3.5 ล้าน TEU โดยท่าเทียบเรือชุดดี จะได้รับการติดตั้งปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าควบคุมระยะไกล (super post panamax ship to shore cranes ) จำนวน 17 คัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยางจำนวน 43 คัน ที่เป็นระบบไฟฟ้าควบคุมจากระยะไกลทั้งหมด และเป็นท่าเทียบเรือแห่งแรกในโลกที่นำรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติมาใช้งานร่วมกับรถบรรทุกแบบธรรมดา

ท่าเรือแหลมฉบัง คือท่าเรือหลักของประเทศไทยและยังเป็นด่านสำคัญของการนำเข้า-ส่งออกของประเทศ ในปี 2564 ท่าเรือแหลมฉบังรองรับปริมาณตู้สินค้ารวม 8.5 ล้าน TEU ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.9 ล้าน TEU จากปี 2563 โดยส่วนแบ่งทางการตลาดของ HPT ณ ท่าเรือแหลมฉบังคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2564 มีเรือบรรทุกตู้สินค้ากว่า 1,000 ลำ ในจำนวนนี้ได้รวมถึงเรือบรรทุกตู้สินค้าขนาดใหญ่ที่สุดอีกหลายลำที่ยังปฏิบัติการอยู่ในขณะนี้มาใช้บริการที่ท่าเทียบเรือต่าง ๆ ของ HPT อีกด้วย

ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์

ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เปิดบ้านโชว์ระบบปฏิบัติการท่าเทียบเรือสุดอัจฉริยะ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4