ถอดบทเรียน 6 ปัจจัยที่ทำให้สิงคโปร์ผงาด ในอุตสาหกรรมไมซ์ของภูมิภาคอาเซียน

พฤหัส ๓๑ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๔:๐๙
สิงคโปร์เป็นเมืองที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และเป็นประตูสู่ภูมิภาค ได้รับการยอมรับในฐานะเป็นศูนย์กลางในด้านธุรกิจ การลงทุน และการเงินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันเป็นผลมาจากการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่มีเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพ จึงไม่น่าแปลกใจที่สิงคโปร์จะกลายเป็นศูนย์กลางของอีเวนต์ การจัดการประชุม การสัมมนา และงานแสดงสินค้าต่าง ๆ หรือ MICE (Meetings, Incentive, Conventions & Exhibitions) อีกด้วย โดยในปี 2562 กลุ่มอุตสาหกรรมไมซ์ถือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสิงคโปร์สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ประเทศมากถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (9.3 หมื่นล้านบาท) ต่อปี เกิดการจ้างงานในระบบอุตสาหกรรมกว่า 34,000 อัตราเลยทีเดียว
ถอดบทเรียน 6 ปัจจัยที่ทำให้สิงคโปร์ผงาด ในอุตสาหกรรมไมซ์ของภูมิภาคอาเซียน

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก สิงคโปร์มีรายได้ จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนับเป็น 4% ของ GDP จากข้อมูลของ Statista อย่างไรก็ดีรายงานประจำปีของ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ปี 2563-2564 ชี้ว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2564 ได้เติบโตขึ้นหลังจากที่มีการนำ แนวทางการดูแลความปลอดภัยในการจัดงานอีเวนต์เชิงธุรกิจ หรือ Safe Business Event Framework มาใช้ตั้งแต่ ปี 2563 จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้จัดงานระดับภูมิภาคและระดับโลกให้เป็นสถานที่จัดงานมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ งานแสดงสินค้าทราเวลรีไวฟ์ (Travel Revive the new standard for MICE Event) งานเทรดโชว์ด้านการท่องเที่ยว ระดับนานาชาติเวทีแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการแซนด์ส เอ็กซ์โป แอนด์ คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ Bloomberg New Economy Forum รวมจัดงานมากกว่า 200 งาน และมีผู้ร่วม งานในประเทศและผู้ที่เดินทางมาร่วมงานจากต่างประเทศรวมกว่า 50,000 คน ในปีที่ผ่านมา

ฉะนั้นจึงเป็นสิ่งน่าสนใจที่ควรจะร่วมเรียนรู้แบบ "รู้เขา รู้เรา" เพื่อให้เห็นทั้งความเหมือน ความแตกต่าง ความเป็นไปได้ที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านเรา ซึ่งได้รวบรวมเอา 6 ปัจจัยที่ส่งเสริมให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางของไมซ์ ดังต่อไปนี้

1.ระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัย
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้ครอบคลุม ทุกพื้นที่และมีความสะดวกสบาย และยกระดับระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนที่หลากหลาย ทั้งรถไฟฟ้า MRT LRT รถเมล์ และรถแท็กซี่ ที่นอกจากสะอาด ตรงเวลา แล้วยังเข้าถึงทุก ๆ สถานที่สำคัญ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ย่านที่พักของนักท่องเที่ยว ศูนย์จัดการประชุม และสถานที่จัดอีเวนต์ทั่วทั้งเมืองอีกด้วย

อีกทั้งสนามบินชางงี สนามบินนานาชาติหลักของสิงคโปร์ ถูกจัดอันดับเป็นสนามบินดีที่สุดในโลกติดต่อกันถึง 8 ปีซ้อน โดย Skytrax จนชื่อสนามบินชางงี เป็นชื่อที่คุ้นหูของคนทั่วไปในฐานะสนามบินที่มีประสิทธิภาพ สะอาด และปลอดภัยสำหรับชาวต่างชาติ สมฐานะประตูสู่เอเชียอย่างแท้จริง เพราะเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญ ของเอเชียและเป็นจุดเปลี่ยนเครื่องจากหลายประเทศทั่วโลก โดยในปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสารกว่า 4 แห่ง ซึ่งทั้ง 4 อาคาร สามารถเดินทางเชื่อมถึงกันด้วยระบบรถไฟฟ้าและรถบัสที่สะดวกสบาย และคาดว่าในปี 2573 อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 5 จะแล้วเสร็จ มีพื้นที่กว่า 1,080 ไร่ ด้วยงบประมาณการลงทุนมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้สนามบินชางงีสามารถรองรับผู้โดยสารจากทั่วโลกได้มากกว่า 135 ล้านคนต่อปี ด้วยเส้นทางการบินที่เชื่อมต่อไปยัง 400 เมืองใน 100 ประเทศ ทำให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางการ การจัดงานอีเวนต์ระดับโลกและการประชุมระดับนานาชาติที่สามารถรองรับเที่ยวบินของผู้เข้าร่วมงานจากทั่วมุกมุมโลก

2.มีความพร้อมในการจัดงานสูง
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์อย่างจริงจัง โดยรัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในธุรกิจนี้ จึงได้จัดตั้งหน่วยงาน Singapore Exhibition & Convention BureauTM (SECB) ขึ้นเพื่อดูแลรับผิดชอบการ จัดงานอีเวนต์ทางธุรกิจในสิงคโปร์ ทำงานสอดประสานกับสมาคมผู้จัดงานประชุมและนิทรรศการของสิงคโปร์ (Singapore Association of Convention and Exhibition Organisers and Suppliers - SACEOS) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการจัดประชุม สัมมนา งานแสดงสินค้า และนิทรรศการขนาดใหญ่ (MICE) ของภาคเอกชน อีกทั้งยังมีสถานที่ที่มีความพร้อมในการรองรับการจัดงานต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์, โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท สิงคโปร์, มารีน่า เบย์ ครูซ เซ็นเตอร์ สิงคโปร์, ศูนย์การประชุมราฟเฟิลซิตี้, ศูนย์การประชุมรีสอร์ทเวิลด์(TM) เซ็นโตซ่า, ศูนย์การประชุมและนิทรรศการแซนด์ส เอ็กซ์โป แอนด์ คอนเวนชัน เซ็นเตอร์, แชงกรี-ลา ราซา เซ็นโตซ่า รีสอร์ท แอนด์ สปา และศูนย์การประชุมและนิทรรศการสิงคโปร์ เอ็กซ์โป ฯลฯ ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความพร้อมในการจัดงานอีเวนต์ทางธุรกิจที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

3.สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านที่ตั้ง วัฒนธรรม และอาหารอย่างแท้จริง
ชัยภูมิของสิงคโปร์ถือเป็นอีกยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมไมซ์ เนื่องจากสิงคโปร์ตั้งอยู่ ณ ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโต นักลงทุนและนักธุรกิจต่างมองเห็นโอกาสที่ จะขยายเข้ามาในภูมิภาคนี้ ประกอบกับการเป็นศูนย์กลางเส้นทางการบินจากภูมิภาคอื่น ๆ เข้ามายังภูมิภาค ทำให้เดินทางได้สะดวกสบาย จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะอย่างยิ่งในการเริ่มเข้ามาทำความเข้าใจตลาดและความ ต้องการของคนในภูมิภาคนี้

อีกทั้งความสวยงามของตัวเมือง วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารที่หลากหลาย พร้อมความบันเทิงจากแหล่ง ท่องเที่ยวที่สามารถแฮงเอ้าท์ รวมไปถึงกิจกรรมและอีเวนต์ระดับโลกตลอดทั้งปี จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้จัดงานและ ผู้เดินทางมาร่วมงานต่างแสวงหา เพราะความพร้อมเหล่านี้จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมงานมีโอกาสได้สาน ต่อความสัมพันธ์จากภายนอกงานอีเวนต์

สิงคโปร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคและยังเป็นศูนย์รวมผู้คนจากต่างวัฒนธรรมที่มารวมตัวกันจึงมีความหลากหลายของวัฒนธรรมที่เห็นได้ชัดเจนคือ วัฒนธรรมทางด้านอาหาร โดยเฉพาะอาหารพื้นเมืองต่าง ๆ ที่ถึงแม้คนสวนใหญ่ มีภาพจำว่าสิงคโปร์เป็นเมืองที่ราคาสินค้าและอาหารค่อนข้างสูง แต่สำหรับฮอว์กเกอร์ (Hawker) หรือวัฒนธรรม อาหารสตรีทฟู้ดที่อยู่ในลักษณะของฟู้ดคอร์ท หรือที่เรียกว่า ฮอว์กเกอร์ เซ็นเตอร์ (Hawker Centre) ของสิงคโปร์ เองก็เป็นที่ยอมรับว่าราคาย่อมเยาและอร่อยไม่แพ้ชาติใด ๆ จนทำให้วัฒนธรรมฮอว์กเกอร์ได้รับรางวัลจาก องค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในปี 2563 และมีร้านสตรีทฟู๊ดมากมายที่ได้รับรางวัล เช่น ร้านฮิลล์ สตรีท ไถ่ฮวา พอร์ก นูเดิลส์ (Hill Street Tai Hwa Pork Noodle) และร้านก๋วยเตี๋ยวและข้าวราด หน้าไก่ฮ่องกงโซยาซอส (Hong Kong Soya Sauce Chicken Rice and Noodle) ซึ่งเป็นร้านสตรีทฟู๊ดร้านแรกๆ ของโลกที่ได้รับรางวัลดาวมิชลิน

นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นศูนย์รวมของบรรดาเชฟที่มีชื่อเสียง ศิลปินและบาร์ที่ติดอันดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แคนเดิลนัท (Candlenut) ร้านอาหารเปอรานากันที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินแห่งแรกของโลก โดยเชฟมัลคอล์ม ลี และจิกเกอร์ แอนด์ โพนีบาร์ (Jigger & Pony Bar) ที่ได้อันดับที่ 2 ของบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียเมื่อปี 2564 (Asia's 50 Best Bars 2021)

ในด้านศิลปะความบันเทิง สิงคโปร์เองก็ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟอร์มูลาวัน สิงคโปร์กรังด์ปรี ที่จะจัดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 30 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2565 นี้ และยังคงจัดต่อเนื่องไปทุก ๆ ปี ไปอีก 7 ปี ตั้งแต่ปี 2565 - 2571

4. ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
นโยบายที่เกื้อหนุนธุรกิจทุกขนาดให้เติบโตของสิงคโปร์ เปิดโอกาสให้นักธุรกิจและนักลงทุนจากประเทศอื่นโดยรอบ ที่ต้องการขยายธุรกิจจากระดับประเทศไปสู่ระดับภูมิภาค หรือจากระดับภูมิภาคไปสู่ระดับโลกได้มา ทดลองสนาม พบปะคนในแวดวงเดียวกัน และเพิ่มพูนประสบการณ์รวมถึงสั่งสมความสัมพันธ์ที่จะช่วยทำให้ความเป็นไปได้ ซึ่งในปี 2563 ธนาคารโลกได้จัดอันดับให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่เป็นมิตรสำหรับนักลงทุนต่างชาติมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก

ในภาคสังคมและการเมือง สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ โดยอาชญากรรมที่เกิดจากการลัก ขโมย ทำร้ายร่างกายทั่วไป หรือ street crimes นั้น ค่อนข้างมีจำนวนน้อย สำหรับในปี 2561 มีจำนวนลดลง 8.6% เมื่อเทียบกับปี 2560 มีคดีที่ตำรวจจับได้จำนวน 13,431 คดี แต่ในปี 2561 มีเพียง 12,279 คดีทั่วประเทศ จำนวน คดีการลักทรัพย์ในพื้นที่ร้านค้า หรือในบ้านพักก็ลดน้อยลงทุกปีด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งมีเสถียรภาพทางการเมืองสูง สิงคโปร์จึงถือเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และของโลก ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลง ทุนและนักธุรกิจที่มองหาสถานที่จัดงานอีเวนต์ได้เป็นอย่างดี

5.ความเป็นกลางในเวทีโลก
สิงคโปร์มีนโยบายวางตัวเป็นกลาง (Neutral Country) บนเวทีโลกมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สิงคโปร์ก่อตั้งขึ้นเป็น ประเทศในปี 2508 จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาและจีนที่มีความขัดแย้งกันนั้น ต่างมีบทบาท สำคัญและมีอิทธิพลต่อประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง แต่สิงคโปร์ก็ยังคงวางตัวเป็น กลางในเวทีโลก ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และดำรงซึ่งความสัมพันธ์อันดีงามกับทั้งสองประเทศ ทำให้นักลงทุน และนักธุรกิจ ที่จะร่วมทำธุรกิจสามารถไว้วางใจในความปลอดภัยจากเกมทางการเมืองระหว่างประเทศได้

6. ความสามารถในการรับมือกับโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมมาตรการที่ชัดเจนสำหรับการจัดงานอีเวนต์
แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเทศสิงคโปร์ก็สามารถรับมือได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วนผู้เสียชีวิตต่ำเพียง 1,040 ราย และมีอัตราการฉีดวัคซีนของชาวสิงคโปร์ที่สูงถึง 93 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่อยู่ในเกณฑ์การรับวัคซีน ทั้งหมด โดยมีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นแล้วสูงถึง 63 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด ทำให้ประเทศกล้าออก นโยบาย "อยู่ร่วมกับโควิด" เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

และล่าสุดสิงคโปร์ได้ประกาศเปิดประเทศให้ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศเพื่อทำธุรกิจสามารถ เข้าประเทศได้ผ่านเลนการเดินทางพิเศษ หรือ Vaccinated Travel Lane (VTL) ซึ่งผ่อนปรนมาตรการให้เข้าประเทศ ได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://safetravel.ica.gov.sg/vtl/requirements-and-process

เนื่องจากวิกฤติโควิด ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงอุตสาหกรรมไมซ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน ประเทศสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมไมซ์ของภูมิภาคจึงต้องออกมาตรการที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมทั้งการท่องเที่ยวและธุรกิจของประเทศอย่างยั่งยืน ด้วยการปรับมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยในช่วงโควิด สำหรับการจัดงานอีเวนต์โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ต้องการร่วมจัดงานอีเวนต์ในสิงคโปร์สามารถตรวจสอบ ข้อกำหนดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.saceos.org.sg/IRR

นอกจากปัจจัยหลัก 6 ปัจจัยดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว สิงคโปร์ยังมีจุดเด่นอีกมากมายที่ช่วยส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลาง และผู้นำด้านอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคอาเซียน การเป็นประเทศเจ้าภาพการจัดงานที่ดีนั้น ย่อมต้องมีความ พร้อมในทุกด้าน และสิงคโปร์ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่มีอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุน หรือนักธุรกิจต่างมักจะคิดถึงสิงคโปร์ เป็นตัวเลือกแรกๆ เมื่อคิดจะมองหาสถานที่จัดงานต่าง ๆ สำหรับผู้ที่สนใจ หรือต้องการข้อมูลไมซ์ (Mice) สามารถติดตามข้อมูลด้านการท่องเที่ยวสิงคโปร์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.visitsingapore.com/th_th/

ที่มา: นิโอ ทาร์เก็ต

ถอดบทเรียน 6 ปัจจัยที่ทำให้สิงคโปร์ผงาด ในอุตสาหกรรมไมซ์ของภูมิภาคอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง