ABM สยายปีกรุกธุรกิจ Green Transformation ปักหมุดรายได้สีเขียวปี 65 โต 40-50% รับแรงหนุนดีมานด์เชื้อเพลิงชีวมวล

พฤหัส ๓๑ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๖:๑๑
ABM ประกาศเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ขึ้นแท่นผู้นำด้านเชื้อเพลิงชีวมวลของไทย รุกธุรกิจ Green Transformation สู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าด้านพลังงานสะอาด สอดรับเทรนด์รักษ์โลกที่มาแรง ดันรายได้ธุรกิจสีเขียวเติบโต 40-50% จากปีที่ผ่านมา
ABM สยายปีกรุกธุรกิจ Green Transformation ปักหมุดรายได้สีเขียวปี 65 โต 40-50% รับแรงหนุนดีมานด์เชื้อเพลิงชีวมวล

นายปองธรรม แดนวังเดิม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มกะลาปาล์ม, กลุ่มไม้สับและส่วนอื่นๆของไม้, กลุ่มขี้กบ ขี้เลื่อย และฝุ่นไม้, กลุ่มชีวมวลอัดแท่ง และกลุ่มสินค้าอื่น เปิดเผยว่า ตามที่การประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ (UN) หรือ COP26 ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 มีมติในที่ประชุมเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดแก้ปัญหาสภาพอากาศ ลดอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นจากการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจก และรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง

นายปองธรรม กล่าวว่า ABM ในฐานะผู้นำในการให้บริการจัดหาและจัดจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลหลากหลายประเภทให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงชีวมวลในกระบวนการผลิตทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ก่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่ประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่นๆ แทนพลังงานฟอสซิล รวมทั้งสนับสนุน Green Economy ลด Carbon Footprint ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ในขณะนี้  

ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทฯ กำหนดยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจ Green Transformer เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล โดยนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัล เข้ามาใช้ในการวางรากฐานเป้าหมายและดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้าในปัจจุบันและลูกค้าในอนาคต ที่ต้องการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานสิ้นเปลือง หรือพลังงานฟอสซิล ได้แก่ น้ำมัน รวมทั้งหินน้ำมัน ทรายน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ มาเป็นพลังงานหมุนเวียน หรือพลังงานชีวมวล (Biomass Energy) ซึ่งเป็นพลังงานที่ผลิตได้จากการนำวัสดุชีวมวล มาผ่านกระบวนการแปรรูปจนได้ก๊าซ นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อการผลิตไฟฟ้า ช่วยลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ลดรายจ่ายให้กับผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงานอย่างครอบคลุมแบบครบวงจร นับเป็นการสร้าง New S-curve ของบริษัทฯ ที่ชัดเจนตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

"บริษัท พร้อมแล้วสำหรับการรุกธุรกิจ Green Transformation อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งพนักงาน อุปกรณ์และเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต รูปแบบการให้บริการและให้คำปรึกษาในกระบวนการผลิตและการให้บริการที่เปี่ยมคุณภาพของบริษัทฯ โดยมีลูกค้าสนใจและติดต่อเข้ามาขอรับคำปรึกษาแล้วอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทใดที่ต้องการดำเนินธุรกิจพลังงานชีวมวลทางเลือก หรือพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการใช้พลังงานทดแทน โดยมองเห็นโอกาสในการเติบโตของการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน ขอให้คิดถึง ABM"  นายปองธรรมกล่าว

อย่างไรก็ตาม การบริหารงานของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นในการสร้างระบบบริหารพลังงานที่โปร่งใสไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือเกิดมลภาวะที่เป็นพิษอย่างน้อยที่สุด ทำให้บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจากหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เช่น CSR-DIW AWARD 2021 สถานประกอบการที่ได้มาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ จากกระทรวงอุตสาหกรรม, ใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 3 จากกระทรวงอุตสาหกรรม, การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001:2015 รวมถึง มาตรฐาน ISO 9001:2015 ระบบบริหารงานคุณภาพจาก SGS รวมถึงได้รับใบประกาศการรับรองมาตรฐานด้านคุณภาพอาชีวอนามัยและความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม Bureau Veritas Certification เป็นต้น

นายปองธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 40-50% จากปี 2564 โดยขยายตัวของบริการหลักใน 5 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มกะลาปาล์ม, กลุ่มไม้สับและส่วนอื่นๆของไม้, กลุ่มขี้กบ, ขี้เลื่อย และฝุ่นไม้, กลุ่มชีวมวลอัดแท่ง และสินค้าอื่นๆ รวมถึงขยายธุรกิจเทรดดิ้ง ให้บริการสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น และธุรกิจ Green Transformer ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดขายและมาร์จิ้นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2564 บริษัทฯ มีการเติบโตแข็งแกร่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศมีคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น จากความต้องการของตลาดที่ต้องการลดการใช้เชื้อเพลิงที่มีสารคาร์บอน อีกทั้งถ่านหินที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 1,907.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.21 จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 26.80 ล้านบาท

ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง