มกอช. หารืออาเซียนเสริมความเข้มแข็งระบบ ARASFF

อังคาร ๐๕ เมษายน ๒๐๒๒ ๑๖:๔๖
มกอช. หารืออาเซียนเสริมความเข้มแข็งระบบ ARASFF พร้อมชงประเทศสมาชิก ใช้ระบบ QR Trace พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับของอาเซียน  
มกอช. หารืออาเซียนเสริมความเข้มแข็งระบบ ARASFF

นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. ได้มอบหมายให้นางสาวรวินันท์ ฉ่ำเฉลิม ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร หัวหน้าคณะฝ่ายไทย ในการประชุม ARASFF National Focal Points ครั้งที่ 9 พร้อมด้วยนายสัญชัย ตันตยาภรณ์ ที่ปรึกษา มกอช. หัวหน้าคณะฝ่ายไทย ในการประชุม ARASFF Steering Committee ครั้งที่ 7 เข้าร่วมการประชุมหารือ the 9th ARASFF NCP & the 7th ARASFF SC Meetings ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารและอาหารสัตว์ 

นายพิศาล กล่าวว่า การประชุมดังกล่าว ประเทศไทยในฐานะผู้ดูแลระบบ (ARASFF Admin) รายงานผลการใช้งานระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารและอาหารสัตว์ของอาเซียน (ARASFF) ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งระบบในปี 2551 จนถึงปัจจุบัน โดยมีรายการแจ้งเตือนทั้งหมดในระบบจำนวน 352 รายการ จากประเทศมาเลเซีย 232 รายการ ประเทศไทย 55 รายการ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย 33 รายการ สิงคโปร์ 4 รายการ และฟิลิปปินส์ 1 รายการ

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ขอให้สมาชิกอาเซียนเพิ่มการแจ้งเตือนข้อมูลความปลอดภัยด้านอาหารและอาหารสัตว์ในระบบ ARASFF รวมทั้งร่วมกันผลักดันให้การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยอาหารของอาเซียนเป็นภาคบังคับ ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนจะได้รับทราบข้อมูล และจัดการความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว และเป็นไปตามหลักความโปร่งใสของ WTO/SPS

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือความคืบหน้าของแผนปฏิบัติงานภายใต้ ARASFF ซึ่งประเทศไทยในฐานะผู้ดูแลระบบ (ARASFF Admin) ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบแจ้งเตือนระดับประเทศกับระบบแจ้งเตือนของอาเซียน เพื่อช่วยลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนและลดข้อผิดพลาดในการใส่ข้อมูล โดยปัจจุบัน มกอช. อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมต่อระบบของไทยกับระบบของอาเซียน คาดว่าจะแล้วเสร็จและทดลองเชื่อมต่อได้ภายในปี 2566 ซึ่งสมาชิกอาเซียนหลายประเทศได้แสดงความสนใจต่อแนวทางการเชื่อมต่อที่ไทยเสนอ โดยเมื่อไทยทดลองเชื่อมต่อระบบได้สำเร็จแล้ว ผู้ดูแลระบบจะดำเนินการให้ประเทศผู้สนใจสามารถทดลองเชื่อมต่อระบบได้ต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากที่อาเซียนได้พัฒนาเอกสาร ASEAN guideline on the establishment of food traceability system เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ โดยเอกสารดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐมนตรีเกษตรและป่าไม้อาเซียน ครั้งที่ 43 เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ในการประชุมครั้งนี้ ไทยได้เสนอให้มีการจัดฝึกอบรมด้านระบบตรวจสอบย้อนกลับสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียน โดยใช้เอกสารดังกล่าวเป็นพื้นฐาน เพื่อให้ความรู้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าเกษตรและอาหารของอาเซียนตลอดห่วงโซ่ โดยอาจขอรับการสนับสนุนด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและงบประมาณจาก EU ARISE Plus โดย มกอช. จะแนะนำระบบ QR Trace ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบย้อนกลับของไทยที่พัฒนาโดย มกอช. สำหรับสินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย Q ให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทราบ และพิจารณาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับของอาเซียนต่อไป

"ระบบ ARASFF จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2552 โดยเป็นข้อเสนอของประเทศไทยในการพัฒนาระบบเพื่อยกระดับการแจ้งเตือนในสินค้าอาหารและอาหารสัตว์ของอาเซียนให้มีความรวดเร็วและโปร่งใส โดยมี มกอช. เป็นผู้ดูแลระบบ"เลขาธิการ มกอช. กล่าว  

ที่มา: สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน