จัดทัพพอร์ตแกร่งรับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครน ชู "อสังหาฯ-หุ้นต่างประเทศ-บิทคอยน์" ดาวเด่นไตรมาสสอง

พฤหัส ๐๗ เมษายน ๒๐๒๒ ๑๑:๐๖
นักลงทุนรุ่นใหม่ ประเมินการลงทุนไตรมาสสอง สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงกดดันตลาดการลงทุนโลกผันผวนสูง มองอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศและไทยน่าสนใจ เหตุมีความผันผวนต่ำและไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์สงคราม ส่วนหุ้นที่น่าสนใจคือหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และจีน ด้านตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่อาจจะเข้าสู่ภาวะซึมในช่วงไตรมาสสองและสามเหมือนทุกปี ขณะที่ทองคำและน้ำมัน เน้นเก็งกำไรระยะสั้น ส่วนบิทคอยน์คือสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
จัดทัพพอร์ตแกร่งรับมือสงครามรัสเซีย-ยูเครน ชู อสังหาฯ-หุ้นต่างประเทศ-บิทคอยน์ ดาวเด่นไตรมาสสอง

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในไตรมาสแรกของปี 2565 ภายใต้ความผันผวนสูงของตลาดทุนทั่วโลกจากผลกระทบของสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน กดดันผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ออกมาติดลบ ไม่ว่าจะเป็น 3 ตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา ติดลบตั้งแต่ 3-7% และตลาดหุ้นจีน สร้างผลตอบแทนได้แย่ที่สุดในกลุ่มตลาดหุ้นหลัก โดยให้ผลตอบแทนติดลบ 10% ส่วน SET Index ของไทยแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากต้นปี แต่อย่างไรก็ดี ยังมีสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี คือ ทองคำ บิทคอยน์ และน้ำมันดิบ Brent ซึ่งให้ผลตอบแทนในอัตรา 8% 15% และ 60% ตามลำดับ

สำหรับมุมมองการลงทุนในไตรมาสที่สองของปีนี้ มองว่าสินทรัพย์ที่น่าสนใจและสามารถหลบเลี่ยงความผันผวนจากสถานการณ์สงครามที่ยังไม่จบลง คือ อสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ โดยสามารถลงทุนได้ผ่านทางกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยเฉพาะอสังหาฯ ในฝั่งตะวันตกที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างชัดเจน และจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงไปมากแล้ว น่าจะทำให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้มากขึ้น อสังหาฯ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รับความผันผวนได้ต่ำ

ขณะที่ อสังหาฯ ไทย คาดว่าจะฟื้นตัวจากผลกระทบที่มาจากไวรัสโควิดได้เช่นกันจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาระดับใกล้เคียงกับช่วงเวลาปกติ โดยเฉพาะการผ่อนปรนนโยบายการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ น่าจะทำให้อสังหาฯ ประเภทโรงแรม มีผลประกอบการที่ดีขึ้น รวมถึงกลุ่มค้าปลีกที่จะกลับมาเติบโต เพราะน่าจะไม่มีนโยบายปิดเมืองอีกแล้ว อย่างไรก็ตามอสังหาฯ ประเภทสำนักงานให้เช่า อาจจะยังไม่ฟื้นตัว เพราะผู้ประกอบการบางส่วนอาจจะไม่กลับเข้าไปทำงานในสำนักงานอีก

นายณพวีร์ กล่าวว่า ทางด้านกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้น มองว่าตลาดหุ้นต่างประเทศฝั่งตะวันตก อย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีความน่าสนใจ เพราะถือได้ว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสแรก และกำลังฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสที่สอง โดยสามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นในธุรกิจดั้งเดิมและหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ส่วนหุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็กยังฟื้นตัวได้น้อยกว่า จึงอาจจะต้องมองเป็นการลงทุนระยะยาว

อีกหนึ่งตลาดหุ้นที่น่าสนใจ คือ ตลาดหุ้นเวียดนามที่ปรับตัวลงมาในระดับที่น่าสนใจและสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันได้ ส่วนตลาดหุ้นไทย SET Index แม้จะปรับตัวขึ้นมาแตะระดับ 1,700 จุด แต่ปกติช่วงไตรมาสสองจะเป็นช่วงที่หุ้นไทยค่อนข้างซบเซา และปีนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ๆ เกิดขึ้น จึงมองภาพระยะสั้นยังไม่น่าสนใจ แต่อาจจะทยอยสะสมระยะกลางเพื่อรอปัจจัยบวกใหม่ ๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ทางด้านตลาดหุ้นจีน เวลานี้สามารถเลือกลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีของจีนที่เริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนมากขึ้น แต่หุ้นจีนที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศอาจยังไม่ถึงเวลา เนื่องจากมีปัจจัยกดดันจากที่ไวรัสโควิดยังคงแพร่ระบาดในหลาย ๆ เมือง และรัฐบาลยังคงใช้นโยบายปิดเมือง ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

"การจัดพอร์ตในไตรมาสสองนี้ จึงมองว่ากองทุน REIT ที่ลงทุนในอสังหาฯ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะรับความเสี่ยงได้มาก หรือ น้อย ก็ตาม ส่วนใครที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้นลองพิจารณาหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ และหุ้นเทคโนโลยีจีน ส่วนใครที่มองการลงทุนระยะยาวลองทยอยสะสมหุ้นไทยและหุ้นจีนที่หวังผลตอบแทนในระยะ 6 เดือนขึ้นไป"

สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก "บิทคอยน์" ยังคงน่าสนใจ เนื่องจากราคาไม่ลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 33,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มจะฟื้นตัวในช่วงสั้นจากการคาดการณ์ที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED จะไม่เคร่งครัดไปมากกว่าที่ประเมินไว้ ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงสามารถทยอยสะสมได้ โดยมองเป้าหมายราคาหากมีการฟื้นตัว อยู่ที่ระดับ 55,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

"ขณะที่ ทองคำและน้ำมัน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีในไตรมาสแรก แม้ว่าแนวโน้มทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุนให้ยังคงเป็นขาขึ้น แต่การที่ราคาขึ้นมาค่อนข้างมากและราคาค่อนข้างจะมีความสัมพันธ์กับสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครน ที่ประเมินสถานการณ์ลำบาก จึงมองว่าควรเน้นเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมาก" นายณพวีร์ กล่าว

ที่มา: เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง