"ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช" คณะวิศวฯ จุฬาฯ พัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีวิศวกรรม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

อังคาร ๑๙ เมษายน ๒๐๒๒ ๑๑:๓๐
"ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช ตั้งอยู่ที่ชั้น 10 อาคารวิศวฯ 100 ปี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการสร้างเสริมพลังจุฬาฯ ก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ช่วงที่ 2 หรือ C2F มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สร้างผลกระทบในวงกว้างให้กับประเทศไทยและต่างประเทศ" รศ.ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ ประธานหลักสูตรสหสาขาวิชาวิศวกรรมชีวเวช คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงศูนย์วิจัยแห่งใหม่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเปิดตัวศูนย์ฯ เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา
ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช คณะวิศวฯ จุฬาฯ พัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีวิศวกรรม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช (Biomedical Engineering Research Center) หรือ BMERC ได้รับการก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการยกระดับพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนามหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศและโลกในศตวรรษใหม่ ศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นศูนย์กลางความร่วมมือของหลากหลายศาสตร์ ประกอบด้วย คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างสรรค์งานวิจัยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมว่าจุฬาฯ มีผลงานวิจัยที่โดดเด่น พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์ในการทำ Lab ห้องปฏิบัติการด้านชีวภาพที่มีการเพาะเลี้ยงเซล อุปกรณ์ทางการแพทย์และคอมพิวเตอร์ที่ครบครันทุกสาขา เป็นศูนย์กลางสำหรับนิสิตและคณาจารย์จากคณะต่างๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับการแพทย์และนวัตกรรมทางการแพทย์ได้มีพื้นที่ในการทำงานร่วมกัน

ทำความรู้จักศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช
รศ.ดร.จุฑามาศเปิดเผยว่า ก่อนที่จะเป็นศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวชหรือ BMERC คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ มีหลักสูตรสหสาขาวิชาวิศวกรรมชีวเวชที่มีบทบาทชัดเจนด้านการเรียนการสอนนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา และมีผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับการแพทย์อยู่แล้ว เมื่อมีการจัดตั้งศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวชจึงมีการขยายบทบาทของหลักสูตรโดยเพิ่มเติมพื้นที่สำหรับนิสิตระดับบัณฑิตศึกษาในการทำโครงการวิจัย วิทยานิพนธ์ และพัฒนานวัตกรรม คณาจารย์ก็จะใช้ศูนย์วิจัยนี้เป็นพื้นที่พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือต่อยอดนวัตกรรมในเชิงพาณิชย์

ความพิเศษของศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช
หลากหลายผลงานนวัตกรรมจากหลักสูตรวิศวกรรมชีวเวชที่คณาจารย์และนิสิต ได้พัฒนาขึ้นในช่วงเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้ตอบสนองความต้องการของสังคมและวงการแพทย์ ถือเป็นจุดเด่นที่ศูนย์วิจัยฯ จะเดินหน้าดำเนินการต่อไป ที่ผ่านมามีคณาจารย์หลายท่านในหลักสูตรได้รับทุนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รวมถึงทุนจากต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนิสิต เพื่อพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมให้เป็นที่ประจักษ์มากยิ่งขึ้น

"ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวชมีบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นผู้ที่พบเจอปัญหาทางคลินิกจริงๆ มาร่วมพัฒนางานวิจัยในหลายโครงการ ดังนั้นนวัตกรรมที่เราพัฒนาขึ้นนั้นเริ่มจากโจทย์ที่มีอยู่จริง เป็นงานวิจัยและนวัตกรรมที่ไม่ได้พัฒนาเพื่อขึ้นหิ้ง แต่มีผู้ใช้งานอย่างแน่นอน ยิ่งเป็นงานวิจัยและนวัตกรรมสำหรับวงการแพทย์ก็ยิ่งเป็นประโยชน์มากขึ้น ในการสร้างงานนวัตกรรมถ้าสำเร็จตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ก็จะทำให้ได้วิธีการรักษาโรคและการตรวจวินิจฉัยโรคแบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น" รศ.ดร.จุฑามาศกล่าว

นวัตกรรมส่งเสริม Spin off Research University
รศ.ดร.จุฑามาศกล่าวเสริมว่าการก่อตั้งศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวชได้รับการสนับสนุนจากโครงการสร้างเสริมพลังจุฬาฯ ก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 หรือ C2F โครงการที่ได้รับทุนมี 4 โครงการ ซึ่งเป็นของบริษัท Spin-off ภายใต้การบ่มเพาะของ CU Innovation Hub การทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์วิจัยฯ และบริษัท Spin-off เป็นไปในลักษณะเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยศูนย์ฯ เอื้อเฟื้อในเรื่องของสถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ในการทำวิจัย ในทางกลับกัน ศูนย์ฯ ก็ได้ประโยชน์จาก Spin-off ที่สร้างผลงานนวัตกรรมด้วย

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวชได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัทเมติคูลี่ หนึ่งในบริษัท Spin-off ของ จุฬาฯ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเจนถึงความร่วมมือระหว่างศูนย์วิจัยฯ กับบริษัท Spin-off ซึ่งในอนาคตก็จะมี Spin-off เกิดขึ้นอีกหลายบริษัท จะทำให้ศูนย์วิจัยฯ นำรายได้จาก Spin-off มาสร้างความยั่งยืนในการดำเนินงานของศูนย์วิจัยฯ ต่อไป

ตัวอย่างนวัตกรรมของศูนย์วิจัยฯ ที่นำไปใช้ได้จริง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวชได้พัฒนาหลากหลายผลงานนวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม ไม่ว่าจะเป็นรถกองหนุน ซึ่งเป็นผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ เป็นรถพระราชทาน ที่นำไปต่อยอดในการใช้งานจริงโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เครื่องดึงวัคซีน AstraZeneca อัตโนมัติ เครื่องรังสียูวีสำหรับฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัย N95 ที่มีการใช้งานซ้ำ

นอกเหนือจากนี้ ยังมีผลงานการพัฒนานวัตกรรมอื่นๆ เช่น อวัยวะเทียม แขนขาเทียม เท้าเทียม สะโพกเทียม สำหรับผู้พิการที่สูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการพึ่งพาอวัยวะจากต่างประเทศอาจไม่เหมาะกับสรีระของคนไทย ที่สำคัญคือราคาที่สูง การพัฒนารูปแบบนำทางเข็มฉีดสารในร่างกายลดความเจ็บปวดแทนเข็มฉีดยา โครงการกระดูกเทียมจากไหมไทย โดยการนำโปรตีนจากไหมไทยที่สกัดมาทำกระดูกเทียมเพื่อช่วยกระตุ้นการงอกของกระดูก นวัตกรรม 3D Printing Titanium Bone เพื่อปลูกถ่าย ซ่อมแซมกระดูกที่เสียหาย ซึ่งมีการนำไปใช้จริงในผู้ป่วยแล้ว

"แนวทางการพัฒนาศูนย์วิจัยฯ ในอนาคต จะเน้นในเรื่องการสร้างความร่วมมือ เป็นหลัก นอกจากการเชื่อมโยงอาจารย์จากสหสาขาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมแล้ว แผนงานที่วางไว้จะมีการขยายความร่วมมือออกไปนอก จุฬาฯ โดยสร้างความร่วมมือในการทำโครงการวิจัยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่ทำงานทางด้านการแพทย์ หรือให้ทุนเพื่อพัฒนาการวิจัย โดยมีเป้าหมายให้ศูนย์วิจัยเป็น Medical Hub เพื่อสร้างความร่วมมือพัฒนางานนวัตกรรมทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน สามารถนำไปใช้ได้จริง ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม" รศ.ดร.จุฑามาศ กล่าวในที่สุด

สำหรับหน่วยงานที่สนใจนวัตกรรมหรือต้องการร่วมมือพัฒนานวัตกรรมกับศูนย์วิศวกรรม ชีวเวช สามารถติดต่อได้ที่โทร. 0-2218-6793-13 หรือ Inbox มาที่ Facebook หลักสูตรวิศวกรรมชีวเวช https://m.facebook.com/chulabme/

ที่มา: ศูนย์สื่อสารองค์กร จุฬาฯ

ศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช คณะวิศวฯ จุฬาฯ พัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีวิศวกรรม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง