ทิสโก้คาด เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ "ภาวะถดถอย" มากขึ้น หลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรง

อังคาร ๒๖ เมษายน ๒๐๒๒ ๑๑:๑๔
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวรุนแรงจนเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี
ทิสโก้คาด เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเข้าสู่ ภาวะถดถอย มากขึ้น หลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรง

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังยืดเยื้อและไม่มีท่าทีที่จะสงบลง ประกอบกับผลกระทบจากการ Lockdown เพื่อควบคุมผู้ติดเชื้อโควิดในจีน ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยล่าสุดตลาดซื้อขายล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสะท้อนว่า Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึง 3% ณ สิ้นปีนี้ และขึ้นต่อเนื่องไปหยุดที่ 3.5% กลางปีหน้า ซึ่งหากเป็นไปตามที่ตลาดคาด วัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นรอบที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจฉุดเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวอย่างรุนแรงจนเข้าสู่ภาวะถดถอย

"จากการศึกษาวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในอดีตตั้งแต่ปี 2508 ซึ่งมีทั้งหมด 11 รอบ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้พบว่ามีถึง 8 ครั้งที่การขึ้นดอกเบี้ยนำไปสู่ภาวะถดถอย และมีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นที่ Fed สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้สำเร็จโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยใน 3 ครั้งดังกล่าว ซึ่งได้แก่ในปี 2508 ปี2526 และปี2536 เป็นการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ (สูงสุดในช่วงการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ในระดับไม่เกิน 4%) ซึ่งทำให้ Fed ไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย จึงทำให้เศรษฐกิจยังสามารถขยายตัวต่อไปได้ แต่ในครั้งนี้อัตราเงินเฟ้อได้พุ่งขึ้นไปสูงถึงระดับ 8% ซึ่งทำให้ Fed จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็ว จึงทำให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มมากขึ้น" นายคมศรกล่าว

ในด้านผลกระทบต่อตลาดหุ้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้พบว่า ตลาดหุ้นมักตอบรับในเชิงลบในรอบที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว เช่นในปี 2511 ปี2516 ปี2523 และ ปี2527 ที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 200 bps ในช่วง 6 เดือน และทำให้ดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับในวัฏจักรที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยช้า ซึ่งตลาดปรับฐานเพียงเล็กน้อยและฟื้นตัวได้ภายใน 3 เดือนหลัง Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ย

นอกจากนั้น ในด้านมูลค่า (Valuation) ตลาดหุ้นในปัจจุบันนับว่าเริ่มแพง เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันบัตร (Bond Yield) ที่เพิ่มสูงขึ้น โดย Earning Yield Gap หรือส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนคาดการณ์ของตลาดหุ้นกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ได้ลดลงมาอยู่ที่ 2.7% ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2550

ดังนั้น จากประเด็นข้างต้นศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้แนะนำให้นักลงทุนลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงเนื่องจากความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังสูงต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ Fed ต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่หากต้องการลงทุนนักลงทุนอาจมองหาสินทรัพย์การลงทุนอื่นที่ไม่ผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก เช่น ธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเมกะเทรนด์ เช่น ธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์ กลุ่มเทคโนโลยีแห่งอนาคต เป็นต้น

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน