อย. สหรัฐไฟเขียว "ไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์" เดินหน้าทดลองยาระยะที่ 3 เพื่อรักษาภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน

พฤหัส ๒๘ เมษายน ๒๐๒๒ ๐๘:๓๐
ไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์ ( Direct Biologics ) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการฟื้นฟูร่างกาย ผู้คิดค้นเทคโนโลยีเอ็กซ์ตราเซลลูลาร์เวสิเคิล ( Extracellular Vesicle หรือ EV) ประกาศว่า องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติให้บริษัทดำเนินการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 กับยาเอ็กโซโฟล (ExoFlo) เพื่อใช้รักษาภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (ARDS) ที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19  โดยจนถึงปัจจุบัน ไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์ เป็นบริษัทยา EV แห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐให้ทำการทดลองระยะที่ 3 กับยาใหม่ชนิดนี้

การทดลองระยะที่ 3 จะดำเนินการในสถานะการบำบัดขั้นสูงด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู (Regenerative Medicine Advanced Therapy หรือ RMAT) ซึ่งถือเป็นยา EV ตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติสถานะดังกล่าวจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ ส่งผลให้ไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์เป็นหนึ่งในบริษัทเพียง 70 แห่งในประวัติศาสตร์ขององค์การอาหารและยาสหรัฐที่ได้รับการรับรองสถานะ RMAT อย่างเป็นทางการ โดยการรับรองสถานะ RMAT ถูกกำหนดขึ้นโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐ เพื่อเร่งอนุมัติยาสำหรับฟื้นฟูร่างกายที่มีแนวโน้มว่าจะได้ผลและแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาโรคที่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต ซึ่งคล้ายคลึงกับสถานะ Fast Track และสถานะ Breakthrough

คุณมาร์ก อดัมส์ ( Mark Adams) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ กล่าวว่า "การได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐให้ทำการทดลองระยะที่ 3 ถือเป็นหลักชัยสำคัญของไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์ และเมื่อประกอบกับการรับรองสถานะ RMAT ที่เราได้รับ ตอนนี้เรากำลังเร่งเดินหน้าไปสู่การวางจำหน่ายยาเอ็กโซโฟลในเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ การทดลองระยะที่ 3 ภายใต้หัวข้อ "การกำจัดโควิด-19" เป็นการทดลองแบบสุ่ม อำพรางสองฝ่าย ควบคุมด้วยยาหลอก และจัดทำในศูนย์หลายแห่งในหลายประเทศ วัตถุประสงค์ของเราคือการรับสมัครผู้ป่วยภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลันเข้าร่วมการทดลองในโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วสหรัฐอเมริกา สเปน อินเดีย จอร์แดน อียิปต์ เลบานอน และแอฟริกาใต้ และเพื่อแสดงให้เห็นถึงอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังการรักษาด้วยยาเอ็กโซโฟล เมื่อเทียบกับการดูแลตามมาตรฐานเพียงอย่างเดียว ในฐานะผู้บุกเบิกด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์ กำลังเดินหน้าเปลี่ยนแปลงอนาคตด้านการแพทย์"

คุณโจ ชมิดท์ ( Joe Schmidt) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน กล่าวว่า "ไม่ว่าโควิด-19 จะยังคงเป็นโรคระบาดหรือกลายเป็นโรคประจำถิ่น สิ่งที่ยังคงเป็นที่ต้องการเหมือนเดิมก็คือ ยารักษาภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลันที่มีประสิทธิภาพ โดยผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีและมีโรคประจำตัว เมื่อติดเชื้อ SARS-CoV-2 ก็มักจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงและเกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทั้งนี้ การทดลองระยะที่ 2 ของเราแสดงให้เห็นว่า ยาเอ็กโซโฟลมีความปลอดภัยและลดอัตราการเสียชีวิตภายใน 60 วัน นับว่าสามารถสร้างความแตกต่างในแง่ของการรักษาชีวิตได้อย่างชัดเจนสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน และการได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐเพื่อดำเนินการทดลองในระยะที่ 3 ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะปัจจุบันยังไม่มียาตัวใดที่สามารถรักษาภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ ซึ่งแพทย์และผู้ป่วยทั่วโลกต่างรอคอยวิธีการรักษามาโดยตลอด"

ดร. วิก เซนคุปตะ ( Vik Sengupta) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า "การได้ร่วมพัฒนายาเอ็กโซโฟลถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ข้อมูลทางคลินิกที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่า เอ็กโซโฟลเป็นยาที่นำความหวังมาสู่การรักษาโรคที่การรักษาตามมาตรฐานไม่มีการพัฒนามานานหลายทศวรรษแล้ว ความหวังนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนที่สุดจากเรื่องราวของผู้ป่วยที่ได้รับยาเอ็กโซโฟล โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หญิงคนหนึ่งในรัฐเวอร์จิเนีย สามารถกลับไปใช้ชีวิตกับลูก ๆ ของเธออีกครั้ง หลังจากที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมานานถึง 2 เดือนเพราะมีภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลันจากการติดเชื้อโควิด-19 ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตหญิงรายนี้อย่างเต็มที่ โดยความพยายามครั้งสุดท้ายคือการใช้ยาเอ็กโซโฟล และเธอก็มีอาการดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยอีกหลายล้านคนที่มีอาการเดียวกันแต่ต้องจากไป เราต้องการเปลี่ยนเรื่องที่น่าเศร้านี้ด้วยการทำให้ยาเอ็กโซโฟลเป็นมาตรฐานทองคำสำหรับการรักษาภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน และทำให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วโลกเข้าถึงยาตัวนี้ให้ได้"

เกี่ยวกับไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์
ไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นนักนวัตกรรมระดับแนวหน้าของตลาดและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ได้มาตรฐาน cGMP โดยผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทคือยาเอ็กโซโฟล ที่ประกอบด้วยสัญญาณหลายพันรูปแบบในลักษณะของโปรตีนควบคุม (Regulatory Proteins) ไมโครอาร์เอ็นเอ (microRNA) และเมสเซนเจอร์ อาร์เอ็นเอ (messenger RNA) ซึ่งรับผิดชอบในการสื่อสารระหว่างเซลล์ เอ็กโซโฟลใช้ประโยชน์จากพลังแห่งการรักษาตามธรรมชาติของเซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cells หรือ MSC) โดยไม่ต้องใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพิ่มเติม ทั้งนี้ แพทย์สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ clinicaltrials.govและดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดเรกต์ ไบโอโลจิกส์ และเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้ที่ directbiologics.com



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว