วช. หนุนทีดีอาร์ไอศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของอุบัติเหตุทางถนน หวังผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลวิจัยไปใช้กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนในระดับประเทศให้มีความชัดเจน

ศุกร์ ๒๙ เมษายน ๒๐๒๒ ๑๔:๕๔
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ผู้ประสบภัยเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงให้ทุนสนับสนุนกับโครงการวิจัย "การศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของอุบัติเหตุทางถนน" โดย ดร.สุเมธ องกิตติกุล จากมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) เพื่อวิเคราะห์มูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของไทย เพื่อให้หน่วยงานด้านนโยบายสามารถนำไปใช้เป็นเกณฑ์การอ้างอิงในการติดสินใจทางนโยบายและประเมินผลกระทบของมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนน
วช. หนุนทีดีอาร์ไอศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของอุบัติเหตุทางถนน หวังผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลวิจัยไปใช้กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนในระดับประเทศให้มีความชัดเจน

ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่า เนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนของไทยยังเป็นปัญหาที่มีความรุนแรง โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 20,000 รายต่อปี ที่ผ่านมาการดำเนินงานเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยยังไม่มีประสิทธิผลและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ได้ ซึ่งอุบัติเหตุทางถนนนั้นนอกจากจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต จิตใจ และทรัพย์สินของผู้ประสบอุบัติเหตุและครอบครัวแล้ว ยังก่อให้เกิดต้นทุนทางสังคมจากการจัดการอุบัติเหตุและปัญหาการจราจร รวมไปถึงเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจจากการขาดแรงงานอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การศึกษาที่ผ่านมาของไทยส่วนใหญ่เป็นการประเมินมูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนด้วยวิธีทุนมนุษย์ ซึ่งยังมีข้อจำกัดในการคำนวณต้นทุนจากอุบัติเหตุทางถนนบางประเภท และยังไม่สะท้อนต้นทุนของปัจเจกบุคคลทั้งหมด หากมีการประเมินมูลค่าความสูญเสียที่ส่วนกลางให้การรับรองว่า สะท้อนสถานการณ์ของประเทศ ทั้งด้านการรวบรวมแหล่งข้อมูลและวิธีการศึกษาจะมีประโยชน์ต่อการวางแผนการดำเนินนโยบายความปลอดภัยทางถนน รวมถึงนโยบายบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งและโลจิสติกส์ได้ดียิ่งขึ้น

จากความสำคัญของปัญหาที่กล่าวมา ทีมวิจัยจึงทำโครงการศึกษา "ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของอุบัติเหตุทางถนน" เพื่อวิเคราะห์มูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของไทยให้สามารถพัฒนาไปสู่ผลลัพธ์และวิธีการที่ใช้อ้างอิงทางวิชาการของประเทศได้ เพื่อให้หน่วยงานด้านนโยบายนำไปใช้เป็นเกณฑ์การอ้างอิงในการตัดสินใจทางนโยบายต่อไป ทั้งนี้ โครงการวิจัยฯ มีการดำเนินการเพื่อวิเคราะห์มูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของไทย โดยการประเมินมูลค่าชีวิตเชิงสถิติ (Value of Statistical Life: VSL) ด้วย 2 วิธี ได้แก่ 1.วิธีทุนมนุษย์ (Human Capital Approach: HCA) ซึ่งเป็นการประเมินค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปจริงร่วมกับต้นทุนค่าเสียโอกาสจากการขาดรายได้ในการทำงานในอนาคตของผู้ประสบอุบัติเหตุ และ 2. วิธีความพึงพอใจที่จะจ่าย (Willingness to Pay Approach: WTP) โดยประเมินจากผลรวมของความยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนของประชาชนในสังคมจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่า 5,000 ตัวอย่าง

นอกจากนี้งานวิจัยยังได้แสดงตัวอย่างการนำมูลค่าความสูญเสียไปประเมินความคุ้มค่าของมาตรการที่มีการดำเนินการในประเทศไทยอีกด้วย ผู้วิจัย กล่าวว่า จากการดำเนินงานวิจัยมีผลผลิตของโครงการ 3 ด้านหลักที่จะสามารถนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ในอนาคตได้คือ 1.ข้อเสนอการกำหนดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 2. การประเมินความคุ้มค่าของโครงการลงทุนด้านความปลอดภัยทางถนนด้วยวิธีการวิเคราะห์ต้นทุนผลได้ (CBA) และ 3. แนวทางการประยุกต์วิธีการประเมินมูลค่าความสูญเสียจากเหตุทางถนนของไทยกับการกำหนดนโยบาย "ดังนั้น จึงคาดหวังให้หน่วยงานรัฐหรือผู้กำหนดนโยบายจะนำผลการวิเคราะห์มูลค่าความสูญเสียที่ประเมินได้จากงานวิจัยไปใช้เป็นค่าอ้างอิงในการพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางถนนของไทย และกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการจัดสรรนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนในระดับประเทศให้มีความชัดเจน ซึ่งผู้กำหนดการประเมินสามารถประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนในโครงการด้านความปลอดภัยทางถนนได้ เพื่อให้สามารถกำหนดงบประมาณของโครงการที่ทำให้มาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนที่ความยั่งยืนและเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องโดยผู้กำหนดนโยบายสามารถติดตามและประเมินผลของการดำเนินมาตรการต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ มีการบริหารทรัพยากรในการดำเนินนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป" สำหรับผลการวิจัยนี้ได้มีการเผยแพร่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผลักดันเข้าสู่ (ร่าง) แผนแม่บทด้านความปลอดภัยทางถนน ฉบับที่ 5 อีกทั้งจะมีการนำเสนอในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ ด้านความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 15 ในหัวข้อ "ทศวรรษใหม่ วิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัยต้องมาก่อน" ต่อไป

สำหรับสถานการณ์การเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทยในปัจจุบัน ดร.สุเมธ เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ 3 ฐานข้อมูลของกรมควบคุมโรคพบว่า ผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง โดยในช่วง 2 ปีหลัง (พ.ศ.2563- พ.ศ.2564) มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนรวม 34,788 คนเฉลี่ยปีละไม่ถึง 20,000 คน ซึ่งอาจเกิดจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ปีผ่านมา ที่ส่งผลให้การเดินทางลดลง อย่างไรก็ตามมองว่า จำนวนอุบัติเหตุมีแนวโน้มลดลงได้อีก หากการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนน การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการบูรณาการร่วมกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ที่มา: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

วช. หนุนทีดีอาร์ไอศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของอุบัติเหตุทางถนน หวังผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลวิจัยไปใช้กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนในระดับประเทศให้มีความชัดเจน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว