แม็คโคร ทำกำไรไตรมาสแรก 2,050 ล้านบาท โตแข็งแกร่ง 18.3% เร่งต่อยอดธุรกิจ O2O สู่ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจ

พฤหัส ๑๒ พฤษภาคม ๒๐๒๒ ๑๐:๕๘
MAKRO โชว์กำไรสุทธิ ไตรมาสแรกปี 2565 รวม 2,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,734 ล้านบาท ขานรับการฟื้นตัวของธุรกิจ และผลพวงการรวมกิจการกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ดันยอดขายโตถึง 93.7% หรือกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกตลาด O2O ต่อยอดธุรกิจออนไลน์ อี-คอมเมิร์ซ เสริมศักยภาพสู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นในธุรกิจค้าส่งค้าปลีก
แม็คโคร ทำกำไรไตรมาสแรก 2,050 ล้านบาท โตแข็งแกร่ง 18.3% เร่งต่อยอดธุรกิจ O2O สู่ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจ

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ สายงานบัญชีและการเงิน เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีการเติบโตในระดับที่ดี จากสถานการณ์การฟื้นตัวของภาคธุรกิจ ภาคการท่องเที่ยวของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 2,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,734 ล้านบาท และมียอดขายเติบโต 106,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 51,400 ล้านบาท หรือ 93.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาสแรกนี้ เป็นผลมาจากการรวมกิจการกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ประกอบกับการเติบโตของรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่ง ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจแม็คโครประเทศไทย ทั้งการขยายสาขาใหม่ การเปิดแพลตฟอร์มตลาดค้าส่งออนไลน์ maknet สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายย่อย

นอกจากนี้ธุรกิจ แม็คโครต่างประเทศ ยังมีการเติบโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นใน กัมพูชา อินเดีย และ เมียนมาร์ รวมถึงธุรกิจฟูดเซอร์วิสที่ได้รับอานิสงส์จากกลุ่มโรงแรมร้านอาหาร ที่ฟื้นตัวจากวิกฤตโรคโควิด-19 และภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนรายได้จากค่าเช่าและการให้บริการศูนย์การค้าของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก

นางเสาวลักษณ์ กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานดังกล่าว ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยนับจากนี้บริษัทฯ มีแผนงานในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี สร้างโอกาสการเติบโตในตลาด O2O เพื่อขยายธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มค้าส่ง (แม็คโคร) และค้าปลีก (Lotus's) โดยตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย

อย่างไรก็ตาม นับจากนี้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ยังคงต้องเผชิญความท้าทายท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศและทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนราคาสินค้าและการดำเนินงาน แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูงที่อาจส่งผลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อ รวมถึงกระแสการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่จะส่งผลกับทุกธุรกิจ

ที่มา: นิโอ ทาร์เก็ต

แม็คโคร ทำกำไรไตรมาสแรก 2,050 ล้านบาท โตแข็งแกร่ง 18.3% เร่งต่อยอดธุรกิจ O2O สู่ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๖ กทม. ประเมินผล Lane Block จัดระเบียบจราจรหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบรถแท็กซี่-สามล้อเครื่องจอดแช่ลดลง
๑๗:๐๓ สมาคมประกันวินาศภัยไทย Kickoff การใช้ข้อมูล Non-Life IBS พร้อมส่งมอบรายงานข้อมูลสถิติในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยของประเทศ
๑๗:๓๖ 3 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ ซื้อ SAV เคาะราคาเป้า 24-25 บาท/หุ้น คาดกำไร Q1/67 ทุบสถิติออลไทม์ไฮ รับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม เก็งผลงานทั้งปีโตเด่น
๑๗:๐๓ Minto Thailand คว้ารางวัล Best Official Account จาก LINE Thailand Award 2023
๑๗:๒๔ กทม. ตรวจสอบความปลอดภัยอาคาร ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ เตรียมพร้อมหน่วยเบสท์รองรับพายุฤดูร้อน
๑๗:๓๒ ไขข้อสงสัย.เมื่อซื้อแผงโซล่าเซลล์แล้วจะขนย้ายกลับอย่างไรให้ปลอดภัย โดย เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย)
๑๖:๔๕ ไทเชฟ ออกบูธงาน FHA Food Beverage 2024 ที่สิงคโปร์
๑๖:๕๓ เนื่องในวันธาลัสซีเมียโลก มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคธาลัสซีเมียในประเทศไทย
๑๖:๓๕ EGCO Group จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration (ส่วนขยาย) อย่างเป็นทางการ
๑๖:๒๖ เพลิดเพลินไปกับเมนูพิเศษประจำฤดูกาล: อาหารจากแคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี ที่ โวลติ ทัสคาน กริลล์ แอนด์ บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา