การสร้างสรรค์น้ำหอมมีการใช้พืชพรรณมากมายมานานนับศตวรรษ แต่พืชพรรณเหล่านี้ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา ปัจจุบัน พืชพรรณมีกลิ่นหอมที่ถูกลืมกลายเป็นแหล่งนวัตกรรมที่น่าสนใจในการพัฒนาวัตถุดิบธรรมชาติ L'OCCITANE en Provence ร่วมมือกับสถาบันเคมีแห่งนีซ ประเทศฝรั่งเศส และพิพิธภัณฑ์น้ำหอมนานาชาติในเมืองกราซ ในโครงการวิจัยและพัฒนาที่ไม่เพียงชุบชีวิตให้กับมรดกทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าเท่านั้น แต่ยังเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างการจัดหาส่วนประกอบและการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
'ธรรมชาติถือเป็นห้องแล็บการวิจัยและพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่ L'OCCITANE เราเป็นเหมือนนักสำรวจที่ออกเดินทางสู่ดินแดนที่ไม่รู้จักพร้อมด้วยความกระตือรือร้นอันไร้ขอบเขต ไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะค้นพบอะไรบ้าง' - Pascal Portes
โครงการวิจัยและพัฒนาที่แตกต่างนี้ต้องการค้นหาและสำรวจพืชพรรณมีกลิ่นหอมที่ถูกลืมขึ้นมาใหม่ และเพื่อประเมินความเป็นไปได้ที่จะนำพืชพรรณเหล่านั้นกลับมานำเสนอเป็นส่วนประกอบในยุคปัจจุบัน มีการค้นคว้าหนังสืบนับร้อยและสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมากมาย ข้อมูลรวบรวมขึ้นมาเกี่ยวกับอัตลักษณ์ ประวัติ สัญลักษณ์ การใช้งาน กลิ่น คุณสมบัติทางยา และสมมติฐาน เพื่อหาเหตุผลที่พืชชนิดนี้ถูกลืมไป และใช้ข้อมูลที่ได้มานี้สร้างฐานข้อมูลที่ประกอบด้วยพืชพรรณมีกลิ่นหอมกว่าแปดร้อยชนิด ความสนใจของ L'OCCITANE en Provence ในการเอาใจใส่ความหลากหลายทางชีวภาพนำไปสู่การเจาะลึกข้อมูลของฮาวธอร์นและสวีตโคลเวอร์ พืชทั้งสองชนิดได้ชื่อว่าเป็นพืชพรรณมีกลิ่นหอมที่ถูกลืม และแต่ละชนิดต่างมีประโยชน์ทางระบบนิเวศในแง่ของการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
โครงการพืชพรรณที่ถูกลืมได้รับการค้นคว้าและพัฒนาโดย:
P. PORTES จาก Laboratoires M&L, L'OCCITANE Group, A.S BOUVILLE จาก Institut de Chimie de Nice, CNRS, Universite Cote d'Azur และ Laboratoires M&L, J.C. LHOMMET จาก Laboratoires M&L, L'OCCITANE Group และ X. FERNANDEZ จาก Institut de Chimie de Nice, CNRS, Universite Cote d'Azur และ K. DA FONTE จาก Institut de Chimie de Nice, CNRS, Universite Cote d'Azur
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1846389/LOCCITANE_2022_WPC.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1845958/L_OCCITANE_Logo.jpg