ม.มหิดล ส่งต่อแนวคิด "ปรีชาญาณนคร" เพื่อสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์อย่างยั่งยืน

อังคาร ๐๒ สิงหาคม ๒๐๒๒ ๐๘:๕๒
ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีหลักฐานปรากฏชัดในหลักศิลาจารึกว่า บ้านเมืองมีความสุข ผู้คนมีอิสระเสรี เมื่อราษฎรเกิดความทุกข์ หรือขุ่นข้องหมองใจอะไร ก็จะหอบลูกจูงหลานมา "ลั่นกระดิ่ง" ที่พระองค์ทรงโปรดให้แขวนไว้หน้าวังได้ กระทั่งต่อมาได้เปลี่ยนจากการ "ลั่นกระดิ่ง" มาเป็นการ "ตีกลองร้องทุกข์" ซึ่งกลายเป็นสำนวนที่ใช้สำหรับการยื่นเรื่องถวายฎีกาจวบจนสมัยนี้
ม.มหิดล ส่งต่อแนวคิด ปรีชาญาณนคร เพื่อสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์อย่างยั่งยืน

จากพื้นฐานการพัฒนาชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์บนที่สูงตามพระราโชบายของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบนที่สูง ให้ใกล้เคียงกับคนส่วนใหญ่ในประเทศ จนถึงปัจจุบันโลกหมุนไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและแข่งขัน "ไพร่ฟ้าหน้าใส" เปลี่ยนเป็นพลเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีสิทธิเสรีด้านการพัฒนาตนเองอย่างเท่าเทียม

ปัจจุบัน การดำเนินชีวิตต้องอาศัยความฉลาดและคุณธรรมในการอยู่รอด ปรับตัว พึ่งพาตนเองเป็นสำคัญ หมดสมัยแล้วที่จะต้องคอยรอรับแต่การช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต้องการพิสูจน์ตนเองว่ามีศักดิ์และสิทธิเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทย

จึงเป็นที่มาของโครงการ "อีโคมิวเซียมดอยสี่ธาร" ที่ริเริ่มขึ้นโดย มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้ปณิธาน "Wisdom of the land" ที่มีความหมายว่า "ปัญญาของแผ่นดิน" ด้วยการร่วมพัฒนาชุมชนบนที่สูงให้เกิดเป็น "แผ่นดินอุดมปัญญา" (Land of Wisdom)

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พธู คูศรีพิทักษ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศึกษาผู้สอนหลักกลุ่มวิชาพิพิธภัณฑ์ศึกษา ซึ่งกำลังพัฒนาขึ้นเป็นหลักสูตรใหม่ในระดับปริญญาโทของสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย (RILCA) มหาวิทยาลัยมหิดล เพิ่งได้รับการประกาศให้ได้รับทุนอุดหนุนโครงการขับเคลื่อนนโยบายชี้นำสังคมจากมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี 2565 ในฐานะหัวหน้าโครงการ "นโยบายการพัฒนาปรีชาญาณนคร" ไปได้อย่างภาคภูมิเมื่อเร็วๆ นี้

ก่อนจะพัฒนามาเป็นโครงการ "ปรีชาญาณนคร" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พธู คูศรีพิทักษ์ ได้ใช้เวลาและสั่งสมประสบการณ์นับทศวรรษ เพียรพยายามสร้าง "อีโคมิวเซียม" (Eco Museum) ร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ชิตชยางค์ ยมาภัย อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศึกษา และหัวหน้าโครงการพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยมหิดลกับสังคม (Mahidol Social Engagement) ให้เกิดขึ้นจนเป็นรูปเป็นร่าง

จากการนำนักศึกษาปริญญาโทหลักสูตรวัฒนธรรมศึกษาของสถาบัน RILCA มหาวิทยาลัยมหิดล ไปเรียนรู้วิถีชีวิต กินอยู่กับชาวปกาเกอะญอในหมู่บ้านแห่งนี้ ในรายวิชา "การฝึกปฏิบัติระเบียบวิธีวิจัยทางวัฒนธรรมศึกษา" เป็นเวลา 10 ปีจนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันกับชุมชนอย่างแน่นแฟ้นโครงการจึงได้รับทุนสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในการพัฒนาชุมชนชาติพันธุ์ ตามแนวทางอีโคมิวเซียม "พิพิธภัณฑนิเวศสถานดอยสี่ธาร"

อีโคมิวเซียม หรือ "พิพิธภัณฑนิเวศสถานดอยสี่ธาร" มีวิสัยทัศน์เพื่อเป็น "ชานชาลาของการปริวรรตและสร้างนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของวัฒนธรรมปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง)" เพื่อให้ชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอ ณ หมู่บ้านดอยสี่ธารตำบลสันทราย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดกระบวนการเรียนรู้เชิงบูรณาการศาสตร์สากลกับภูมิปัญญาของตนเอง ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

"อีโคมิวเซียม" ได้รับการออกแบบขึ้นตามโจทย์ของพื้นที่ ซึ่งสามารถผันความงดงามของวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ สู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน และความภาคภูมิใจในพื้นถิ่น

ความงดงามที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน ณ หมู่บ้านชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอ "ดอยสี่ธาร" ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ไม่ขาด คือเสน่ห์ของโลกวัฒนธรรมชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอ ที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสอย่างครบรส ไม่ว่าจะเป็นการกิน การอยู่หรือการใช้ชีวิตในแบบชาวไทยภูเขาปกาเกอะญออย่างเข้าถึง

นอกจากจุดชมวิวที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สูดอากาศสดชื่นเย็นสบายบนดอย พร้อมจิบกาแฟออร์แกนิคแท้ๆ ที่คั่วบด และชงเองกับมือ โดยชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอตัวจริงแล้ว ยังจะได้สัมผัสกับกิจกรรมต่างๆ เพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอที่หาชมและสัมผัสได้ยาก ซึ่งจัดขึ้นโดย "พิพิธภัณฑนิเวศสถานดอยสี่ธาร" อีกด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พธู คูศรีพิทักษ์ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชิตชยางค์ ยมาภัย ได้ฝากผลงานการสร้างสรรค์และออกแบบพื้นที่ การจัดวางสิ่งจัดแสดง และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจไว้มากมายภายในพิพิธภัณฑนิเวศสถานดอยสี่ธาร

ไม่ว่าจะเป็น "สวนเศรษฐกิจพอเพียง" ที่ชาวชุมชนไทยภูเขาปกาเกอะญอ "ดอยสี่ธาร" ตำบลสันทราย อำเภอพร้าวจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมออกแบบในครอบครัว และดำเนินการจนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตลอดจนการฝึกให้ลูกหลานชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอเป็น "มัคคุเทศก์รุ่นเยาว์" นำชมและทำกิจกรรมต่างๆ ที่จะสามารถตอบสนองประสาทสัมผัสทั้ง 6 ซึ่งได้แก่ ตา หู  จมูก ลิ้น กาย และ ใจ

ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจมากที่สุด คือการได้มีประสบการณ์ร่วมลงมือทำด้วยตนเอง ได้แก่ การสาธิตให้ผู้มาเยือนได้ลองทำเครื่องดื่มทางวัฒนธรรม"spiritual drink" ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอด้วยตนเองเป็นต้น

สิ่งสำคัญในงานอีโคมิวเซียมดอยสี่ธาร คือ กระบวนการพัฒนาชุมชนปกาเกอะญอ ด้วยฐานมรดกวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้กลับมามีสำนึกรักในวัฒนธรรมตนเองและสามารถหารายได้จากการสืบสานวัฒนธรรมอย่างมีพลวัต

ดังตัวอย่าง มึสะโตะพีพีพือพือ หรือ น้ำพริกสูตรคุณตาคุณยาย ข้าวดอย สร้อยปกาเกอะญอ และสิ่งหนึ่งซึ่งจะทำให้ผู้มาเยือนทุกคนกลับไปพร้อมรอยยิ้ม คือ การได้เป็นเจ้าของ"ย่ามกะวา" หรือย่ามใบใหญ่ย้อมสีธรรมชาติ จากเพื่อนชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอ "ดอยสี่ธาร" ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีชื่อผู้ทอแปะไว้บนย่ามทุกใบทำให้ได้รู้สึกภาคภูมิใจ เหมือนได้ครอบครอง "สมบัติอันล้ำค่าที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก"

อีโคมิวเซียม "ดอยสี่ธาร" ตำบลสันทราย อำเภอพร้าวจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิสูจน์แล้วถึงพลังของลูกหลานชาวไทยภูเขาปกาเกอะญอ ที่พร้อมสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป

ทั้งนี้ ฐานคิด และกระบวนการทำงานจากโครงการอีโคมิวเซียมดอยสี่ธารนี้ เป็นแก่นสำคัญในการพัฒนาต่อยอดขับเคลื่อน โครงการนโยบายปรีชาญาณนคร ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในโรงเรียนชุมชนบางกอกน้อยกรุงเทพมหานคร ให้สามารถ เรียนเด่น เล่นดี มีรายได้พัฒนาทักษะการคิดอย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์ ที่มาจากฐานวัฒนธรรมภูมิปัญญาของชุมชนโดยรอบต่อไปได้

"ทันสมัย ใช้ประโยชน์ ตอบโจทย์ชีวิต" จึงเป็นบทสรุปสำคัญในการขับเคลื่อนงานพัฒนาเพื่อการพึ่งพาอย่างยั่งยืนที่สามารถประยุกต์ใช้ในบริบทที่แตกต่างกันได้ สามารถขับเคลื่อนนโยบายชี้นำสังคมต่อไป

มหาวิทยาลัยมหิดลโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พธู คูศรีพิทักษ์ และคณะ จึงมุ่งมั่นสร้างให้มหาวิทยาลัยมหิดลในฐานะ "ปัญญาของแผ่นดิน" ได้ร่วมสร้าง "แผ่นดินแห่งปัญญา" เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ติดตามนิทรรศการออนไลน์ อีโคมิวเซียมดอยสี่ธารได้ที่https://artsandculture.google.com/story/gQWhQSbMtRgUdw

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th

สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล

ม.มหิดล ส่งต่อแนวคิด ปรีชาญาณนคร เพื่อสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์อย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง