ชูระเบียงเศรษฐกิจชายแดนเป็นกลไกพื้นที่เกื้อหนุนเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก-นักวิชาการออกโรงสนับสนุน

จันทร์ ๐๘ สิงหาคม ๒๐๒๒ ๑๔:๐๘
นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก ประสานเสียงนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญผลักดันให้เกิดระเบียงเศรษฐกิจชายแดนเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแก่ระบบเศรษฐกิจไทย และเพื่อความสอดคล้องกับแนวโน้มใหม่ของพัฒนาการเศรษฐกิจโลก ที่ให้ความสำคัญมากขึ้นกับเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
ชูระเบียงเศรษฐกิจชายแดนเป็นกลไกพื้นที่เกื้อหนุนเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก-นักวิชาการออกโรงสนับสนุน

ดร.ชนินทร์ มโนภินิเวส นักเศรษฐศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน ภูมิภาคเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก ประจำธนาคาร โลกประจำประเทศไทย กล่าวในเวทีการประชุมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแสวงหาแนวทางการยกระดับความมั่นคงและพัฒนาคุณภาพชีวิตชายแดน ซึ่งหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมจัดขึ้น โดยระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ทำให้มีการค้าขายภายในแต่ละในภูมิภาคมากขึ้น ทำให้โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดนเป็นการลงทุนที่ดีในการเชื่อมโยงการขนส่ง ผ่านแดน ตัวอย่างของการเชื่อมด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่ สปป.ลาวและจีนทำและจะมาเชื่อมกับไทยถือว่าช่วยเรื่องการขนส่งได้ เนื่องจากปัจจุบันการค้าขายระหว่างอาเซียน และจีนกว่า 95% ของสินค้าจากอาเซียนที่ส่งไปขายที่จีนยังใช้เส้นทางขนส่งทางน้ำ เมื่อมีรถไฟความเร็วสูงเข้ามาทำให้มีช่องทางในการส่งสินค้าไปทางตอนใต้ของจีนได้รวดเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตามจะต้องดูในเรื่องของต้นทุน และประสิทธิภาพการขนส่งด้วย โดยประสิทธิภาพของการขนส่งสินค้าข้ามแดนบางส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของกฎหมาย และกฎระเบียบการขนส่งสินค้าข้ามแดน เพราะบางครั้งปัญหา และอุปสรรคเกิดขึ้นในส่วนของกฎระเบียบของแต่ละประเทศที่มีความแตกต่างกันด้วย

"ในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ แต่ละประเทศจำเป็นต้องมีการหารือกันถึงความร่วมมือกันให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันเราเห็นประเทศในระเบียงเศรษฐกิจเดียวกันประกาศว่าจะเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) กันหมด ก็ย่อมทำให้ระเบียงเศรษฐกิจหมดความหมายไป เช่น การเชื่อมโยงจากไทย สปป.ลาว ไปยังเวียดนามจะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันได้มากขึ้น เมื่อคำนึงถึงเรื่องความเข้าใจอันดี ความสมดุล ความเป็นธรรม และความเป็นมิตรที่ดีต่อกันมากขึ้น"

พลเอกสุรสิทธิ์ ถนัดทาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ระบุว่า พื้นที่ชายแดนนั้นมีศักยภาพที่สามารถยกระดับให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักได้ เห็นได้จากมูลค่าการค้าชายแดนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนทางภาคใต้ที่สามารถเชื่อมโยงไปไกลตั้งแต่มาเลเซีย สิงคโปร์ จนถึงอินโดนีเซีย ขณะเดียวกันในชายแดนทางด้านจังหวัดหนองคาย กำลังตื่นตัวอย่างมากกับการที่ประเทศลาวมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง

"แม่น้ำโขง เดิมทีไม่ใช่เส้นกั้นพรมแดน แต่เป็นเส้นทางที่ไทยและประเทศเพื่อนบ้านใช้ร่วมกัน พอเป็นเส้นแบ่งวิธีคิดก็เปลี่ยนไป ต้องเปลี่ยนทัศนคติเดิมให้หมดไป แล้วมาสร้างความรู้มาแลกเปลี่ยนกัน ทุกประเทศต้องร่วมมือกันทำสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา เป็นเศรษฐกิจสังคมร่วมกัน และต้องเป็นอย่างนี้ในทุก ๆ พื้นที่ชายแดนด้วย "

นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ กล่าวว่าการสร้างความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ เช่นในกรณีโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง(GMS) ทำให้เกิดเป็นระเบียงเศรษฐกิจของแม่น้ำโขงในเชียงราย ซึ่งในระยะต้นจังหวัดอื่น ๆก็เห็นว่าเป็นเรื่องของเชียงรายเท่านั้น แต่ปัจจุบันจังหวัดภาคเหนือเกิดความเข้าใจและเห็นประโยชน์ร่วมกันแล้ว

"ตอนแรกก็ไม่ค่อยได้รับความสนใจ อย่างลำพูน มีนิคมอุตสาหกรรมก็สามารถมองได้ว่าสินค้าจากโรงงานจะเข้าตลาด GMS ได้อย่างไร จึงเกิดการมองแบบภูมิภาคขึ้นมา"

นายพัฒนายังกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่อดีตปัญหาการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนก็คือ เรื่องของจุดผ่านแดน เพราะมักจะเน้นการลงทุนโครงสร้างของด่านผ่านแดน ขณะที่กฎระเบียบการผ่านแดนนั้นถือว่ายังมีข้อจำกัดอยู่มาก ตามนโยบายของแต่ละประเทศทำให้เป็นต้นทุนการทำธุรกิจที่สูง

ศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์ คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจชายแดน นอกจากการเชื่อมต่อที่เป็นหัวใจสำคัญแล้ว ยังต้องพิจารณาในเรื่อง กรอบปฏิบัติ กฎระเบียบ ข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคี ไตรภาคี พหุภาคี หรือในระดับอนุภูมิภาค หรือภูมิภาค ซึ่งแต่ละประเทศจะต้องปรับปรุงให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกันให้ได้

"ที่ผ่านมาข้อต่อที่อ่อนแอที่สุดคือ จุดผ่านแดน ถือเป็นหัวใจหลักเวลาที่เราพูดถึงการเชื่อมโยง และเป็นความท้าทายอย่างมากเพราะมีการบริหารโดยนโยบายภายในของรัฐ ถ้ามีการพิจารณาให้สอดคล้องระหว่างความต้องการของภูมิภาคและความต้องการภายในจะสร้างประโยชน์มากกว่า"

ศ.ดร.รุธิร์ ชี้ว่าความสำเร็จของระเบียงเศรษฐชายแดนอยู่ที่การสร้างความคล่องตัวของข้อมูล กายภาพ และเงินทุน ซึ่งทั้งสามปัจจัยจะส่งผลให้ระเบียงเศรษฐกิจประสบความสำเร็จอย่างเต็มศักยภาพ

ภายหลังการประชุมดังกล่าว รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กรของ บพท. กล่าวว่า การเชื่อมโยงทางการค้าและมูลค่าทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโดจีนมีการเติบโตขึ้นมาก ขณะที่ประเทศไทยก็มีนโยบายเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษมาก แต่การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากนโยบายนี้ยังทำได้ไม่มากเท่าที่ควร

ดังนั้น บพท.จึงตั้งเป้าหมายในปี 2566 เพื่อส่งเสริมการวิจัยด้านต่าง ๆ เช่น การเชื่อมโยงชายแดนด้วยคนและวัฒนธรรม การเชื่อมโยงด้วยโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงด้วยการลงทุน และการเชื่อมโยงทางนโยบาย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้มีข้อยืนยันชัดเจนจากข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ซึ่งระบุว่ามูลค่าการค้าชายแดนปี 2564 อยู่ที่ 1.71 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33 จากปี 2563 ทั้งที่อยู่ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

"เราหวังว่าจะเป็นงานวิจัยที่ทุกฝ่ายนำเอาไปใช้ประโยชน์ เพื่อช่วยขยายเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ เป็นระเบียงเศรษฐกิจที่ยั่งยืน สร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย"

ที่มา: วิเสจ

ชูระเบียงเศรษฐกิจชายแดนเป็นกลไกพื้นที่เกื้อหนุนเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก-นักวิชาการออกโรงสนับสนุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud