STECH อวดงบ Q2/65 กำไรโต 127% กวาดรายได้อยู่ที่ 671 ลบ. เดินหน้าเปิดแท่นผลิต 5 โรงงานดอนพุด ลุยรับงานเมกะโปเจกต์เพิ่ม

พฤหัส ๑๑ สิงหาคม ๒๐๒๒ ๑๕:๓๒
"สยามเทคนิคคอนกรีต หรือ STECH" หนึ่งในผู้นำธุรกิจคอนกรีตอัดแรงรายใหญ่ ประกาศผลงาน Q2/65 มีกำไร 47.4 ลบ. โต 127% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 626.27 ลบ. เพิ่มขึ้น 71% จากการบุกขยายตลาดมากขึ้น ประกอบกับการรับรู้รายได้ในงานโครงการก่อสร้างเข้ามาเพิ่มเติม ล่าสุดเปิดแท่นผลิต 5 เพื่อขยายกำลังการผลิตโรงงานดอนพุด (สระบุรี) แล้วเสร็จ โดยใช้เงินจากการะดมทุนไอพีโอ นับเป็นอีกกำลังเสริมทัพการเข้ารับงานในโซนภาคกลาง รวมถึงโปรเจกต์ EEC สนับสนุนเป้ารายได้ปีนี้ทะยาน 25-30% จากปีก่อน แย้มยังอยู่ระหว่างเดินหน้าประมูลงานใหม่อีกราว 20 โครงการ รวมมูลค่า 400 ล้านบาท เสริมแกร่งแบ็กล็อกเพิ่มจากปัจจุบันอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท
STECH อวดงบ Q2/65 กำไรโต 127% กวาดรายได้อยู่ที่ 671 ลบ. เดินหน้าเปิดแท่นผลิต 5 โรงงานดอนพุด ลุยรับงานเมกะโปเจกต์เพิ่ม

นายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 671 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 305 ล้านบาท หรือ 83% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 366 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงเติบโต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ทำให้การส่งมอบงานในมือมีปริมาณสูงขึ้น และการประมูลงานใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง โดยในงวดไตรมาส 2 ปีนี้ มีการรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างโครงการสายส่งระบบ 115kV ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ควบคู่การบริหารจัดการต้นทุนที่รัดกุม ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 47.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.5 ล้านบาท หรือ 127% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.9% อัตรากำไรสุทธิ 7.05% ขณะที่ผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565) มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,182 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 70.36 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง พร้อมด้วยการจัดการต้นทุนที่เหมาะสม สอดรับกับสถานการณ์ และส่งมอบงานโครงการได้ตามแผน สะท้อนมาที่ความสามารถในการทำกำไรในระดับที่ดี แม้ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างต้องเผชิญผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ค่าขนส่งและราคาวัสดุก่อสร้างปรับสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ไม่กระทบบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ

ด้าน นายเจษฎ์กรณ์ มงคลศรีสวัสดิ กรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและขาย บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ STECH เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนการเข้าประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐบาลที่กำลังจะเปิดการประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 มูลค่ารวมกว่า 1,195 ล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟรางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และ รถไฟไทย-จีน สัญญาที่ 4-4 ศูนย์ซ่อมเชียงราก ทำให้มองว่างานส่วนใหญ่ที่ถูกชะลอจากสถานการณ์โควิด-19 จะเริ่มกลับมาเดินหน้าประมูลงานใหม่และส่งมอบได้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนเตรียมเข้าประมูลงานภาคเอกชนเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทเติบโตขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท

ชูจุดแข็ง STECH เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดคอนกรีตอัดแรง มีโรงงาน 10 แห่ง กระจายอยู่ครอบคลุมภูมิภาคสำคัญของประเทศ พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าในเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ ขณะที่ล่าสุด บริษัทฯ ประกาศข่าวดี ได้เปิดแท่นผลิต 5 เพื่อขยายกำลังการผลิต โรงงานดอนพุด จังหวัดสระบุรี โดยใช้เงินจากการระดมทุนไอพีโอ นับเป็นอีกกำลังเสริมทัพในการเข้ารับงานในโซนภาคกลาง รวมถึงโปรเจกต์ EEC สนับสนุนให้ปัจจุบัน STECH มีกำลังการผลิตคอนกรีตอัดแรงรวมอยู่ที่ประมาณ 430,000 คิวต่อปี หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ราว 30% เป็นโอกาสการเติบโตในอนาคต

นายเจษฎ์กรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในแง่โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตลวดเหล็ก ซึ่งมีมูลค่าโครงการราว 320 ล้านบาท ที่ดำเนินการผ่านบริษัทย่อยของ STECH คือ บริษัท สยามสตีลไวร์ จำกัด ประเภทธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายลวดเหล็ก ปัจจุบันได้มีการออกแบบโรงงาน และสั่งเครื่องจักรที่ทันสมัยจากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่รักษาสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มการรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ได้ในช่วงไตรมาส 3/2566 ซึ่งสินค้าใหม่ราว 50% จะใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัท และที่เหลือดำเนินการขายให้กับลูกค้าส่วนต่างๆ อีกทางหนึ่ง เพื่อเข้าสู่การสร้าง New S-Curve ในธุรกิจใหม่ และการบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าลวดนับเป็นประมาณ 20-30% ของต้นทุนการผลิต และจะกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต สร้างฐานกำไรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง