มะเร็งตับเกิดจากการอักเสบของตับเป็นเวลานานจนกลายเป็นตับแข็ง และพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีสาเหตุหลักๆ มาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเรื้อรังทั้งบีและซี ดื่มแอลกอฮอล์ ภาวะไขมันพอกตับ โรคเบาหวาน โรคอ้วน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งตับได้
โรคมะเร็งตับมักไม่มีสัญญาณหรืออาการบ่งบอกในระยะแรก จนพัฒนาถึงขั้นแสดงอาการจึงจะสังเกตได้ เริ่มด้วยการเบื่ออาหารโดยไม่มีสาเหตุ แน่นท้อง ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อเป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด มีไข้ต่ำ ๆ เรื้อรัง ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง
** ฉะนั้นใครที่เริ่มเบื่ออาหาร น้ำหนักลด และมีอาการผิดปกติที่กล่าวมา ควรรีบไปพบแพทย์ตรวจวินิจฉัยโดยด่วน เพราะมะเร็งตับเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ ถ้าตรวจพบในระยะเริ่มต้น โดยแนวทางการรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรค สุขภาพของผู้ป่วยและปัจจัยอื่นๆ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน
มะเร็งตับ ถ้ามีอาการแล้วมักจะเป็นระยะลุกลาม ดังนั้น การตรวจร่างกายประจำปี ด้วยการคัดกรองมะเร็งทั้งการเจาะเลือด ดูการทำงานของตับและทำอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง เพราะหากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นโอกาสรักษาให้หายขาดก็สูงขึ้นตามไปด้วย
"ทางเลือกในการรักษามะเร็งตับ ด้วยวิธี TACE Test" คลิกอ่าน >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/622
ที่มา: โรงพยาบาลรามคำแหง