นอกจากนี้ หัวเว่ยได้จัดการประชุมสุดยอดในหัวข้อ "แนวปฏิบัติในอุตสาหกรรม F5G สร้างการเชื่อมต่อยุคใหม่" (F5G Industry Practice, Building New-Gen Connectivity) โดยหัวเว่ยได้แบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ F5G ให้แก่ลูกค้าและพันธมิตรของหัวเว่ย
F5G คือเครือข่ายการสื่อสารประจำที่รุ่นที่ 5 จากการกำหนดนิยามโดยสถาบันมาตรฐานโทรคมนาคมแห่งยุโรป (ETSI) โดย ดร. แฟรงก์ เจ. เอฟเฟนเบอร์เกอร์ (Frank J. Effenberger) ผู้เสนอรายงาน ITU-T Q2/15 และรองประธานของ ETSI ISG F5G อธิบายว่า F5G ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการตอบสนองความต้องการส่งข้อมูลปริมาณมากและความเร็วสูง (Enhanced Fixed Broadband หรือ eFBB) การเชื่อมต่อไฟเบอร์เต็มรูปแบบ (Full-Fiber Connection หรือ FFC) และการรับประกันความน่าเชื่อถือ (Guaranteed Reliable Experience หรือ GRE) ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านไฟเบอร์ออปติก และตอนนี้ได้มีการนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
คุณคิม จิน กล่าวว่า จุดสนใจของการพัฒนา F5G ในอนาคตก็คือ การพลิกโฉมผลิตภาพในอุตสาหกรรมด้วยการเดินหน้าสำรวจรูปแบบการใช้งานใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยหัวเว่ยเชื่อว่า F5G จะพัฒนาไปสู่สามรูปแบบการใช้งานใหม่ ได้แก่ เครือข่ายออปติคอลที่คล่องแคล่วและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Agile Optical Network หรือ GAO) การเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่นแบบเรียลไทม์ (Real-time Resilient Link หรือ RRL) รวมถึงการแสดงภาพและการตรวจวัดแบบออปติก (Optical Sensing & Visualization หรือ OSV) พร้อมกันนี้ เขาได้เรียกร้องให้พันธมิตรทั่วทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมร่วมกันส่งเสริมนวัตกรรมและการใช้งาน F5G
หัวเว่ยได้นำประสบการณ์จากอุตสาหกรรมต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา F5G โดยหัวเว่ยได้สร้างสรรค์โซลูชัน Green Intelligent OptiX Network และค้นพบรูปแบบการใช้งานมากกว่า 40 รูปแบบ ในกว่า 10 อุตสาหกรรม เช่น การขนส่ง พลังงาน การเงิน ภาครัฐ และสาธารณูปโภค
สำหรับในส่วนของอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (Internet of Things หรือ IoT) หัวเว่ยได้เปิดตัวเกตเวย์ IoT อัจฉริยะแบบออปติคอลทั้งหมดเป็นครั้งแรกในโลกอย่าง OptiXstar T823E-T ที่มาพร้อมความน่าเชื่อถือในระดับสูง การกำหนดเวลาที่แม่นยำ และการเปิดกว้างอย่างชาญฉลาด โดยถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในสถานีไฟฟ้าย่อย การสื่อสารจากยานพาหนะสู่ทุกสิ่ง (vehicle-to-everything หรือ V2X) รวมถึงในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ
สำหรับเครือข่ายแคมปัสขององค์กรขนาดเล็กและขนาดย่อม หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน MiniFTTO และผลิตภัณฑ์อีกหลายตัว
สำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน Fiber to the Room (FTTR) และ OTN P2MP เพื่อช่วยยกระดับการให้บริการสำหรับบ้านและองค์กร รวมถึงสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัวอุปกรณ์ตรวจวัดแบบไฟเบอร์ออปติกรุ่นใหม่ล่าสุด OptiXsense EF3000-F50 ซึ่งได้รับการขยายความสามารถนอกเหนือจากการตรวจสอบท่อส่งน้ำมันและก๊าซ ให้ครอบคลุมการปกป้องสถานที่สำคัญต่าง ๆ โดยมีศักยภาพสูงในการใช้งานในสนามบิน รถไฟ และมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่
คุณนิโคลัส หม่า (Nicholas Ma) ประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ประจำเอเชียแปซิฟิกของหัวเว่ย กล่าวว่า "การปลดปล่อยศักยภาพเชิงดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิกต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หัวเว่ยจะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลด้วยการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยเครือข่ายออปติกที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และก้าวขึ้นเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคนี้"