สสส. สานพลัง สพบ. มสช. ลงพื้นที่บุรีรัมย์ พัฒนาพื้นที่ต้นแบบการให้บริการผู้ป่วยเบาหวาน-ความดัน หนุนปรับรูปแบบบริการปฐมภูมิสู่วิถีใหม่

อังคาร ๑๑ ตุลาคม ๒๐๒๒ ๑๖:๔๘
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันพัฒนาระบบบริการสุขภาพองค์รวม (สพบ.) ภายใต้มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) ลงพื้นที่ รพ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเตรียมความพร้อม ต่อยอดการพัฒนาต้นแบบการจัดบริการสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและความดันรูปแบบใหม่ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สสส. กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการติดตามการทำงานของโครงการ "ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดบริการปฐมภูมิสู่วิถีใหม่โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เกิดการจัดการสุขภาพตนเองของประชาชน : โดยใช้เบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นกรณีศึกษา ในเครือข่ายระดับโรงพยาบาลชุมชนและศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง" เพื่อพัฒนารูปแบบบริการปฐมภูมิแบบบูรณาการของเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง และโรงพยาบาลทั่วไปในการดูแลผู้ป่วย

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่เข้าร่วมโครงการมี 34 แห่งทั่วประเทศ การสนับสนุนให้โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ สามารถใช้ศักยภาพในการจัดการตนเองโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ในการจัดการสุขภาพตนเองและสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพ จะช่วยขยายผลระบบบริการปฐมภูมิแบบบูรณาการให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้ป่วย ครอบครัว ชุมชน มีส่วนร่วมในการวางแผนการดูแลสุขภาพตนเอง ในอนาคตพื้นที่ รพ.คูเมือง จะเป็น 1 ในต้นแบบของการต่อยอด และขยายผลการจัดบริการโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและมุ่งเน้นคุณค่าสู่การจัดการสุขภาพตนเองและสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพต่อไป

พญ.ดวงดาว ศรียากูล ผู้จัดการโครงการฯ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และรองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบบริการสุขภาพองค์รวม (สพบ.) ภายใต้มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดัน มีปัญหาเชิงพฤติกรรม ทำให้การรักษาไม่ได้ผลเท่าที่ควร โครงการนี้จะให้ความรู้ช่วยเหลือคนไข้ในการจัดการดูแลตัวเองมากขึ้น จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้มีการนำรูปแบบในโครงการไปใช้ในโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ในพื้นที่เขตเทศบาลเมือง ซึ่งมีประชากร ประมาณ 30,000 คน คนไข้กระตือรือร้นพยายามเรียนรู้ได้ดีขึ้นถึง 60% จากการส่งเสริมเสริมองค์ความรู้ ในการดูแลตนเอง อาทิ การสร้างความตระหนักก่อนการเจ็บป่วย การเสริมความรู้เกี่ยวกับเบาหวาน อาหาร การเพิ่มการเคลื่อนไหว และ การสร้างแผนสุขภาพส่วนบุคคล การเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกาย และการจัดการอาหาร

"คาดหวังว่าการขยายพื้นที่ในการพัฒนาหน่วยบริการปฐมภูมิ ให้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดบริการ ต่อยอดสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ประจำเขตสุขภาพ สามารถยกระดับผลลัพธ์ในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงให้ดีขึ้น ผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชน สามารถจัดการสุขภาพตนเองได้ ช่วยการลดค่าใช้จ่ายต่อหัวของประชากรในประเทศ ตลอดจนเกิดการบูรณาการการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพทั่วประเทศ" พญ.ดวงดาว กล่าว

ที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส.)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4