ภายใต้บันทึกความเข้าใจนี้ ทั้งสองบริษัทจะกำหนดความต้องการของตลาดเรื่องภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์สำหรับเครื่องเอ็นด์พ้อยต์ และวิธีการตอบสนองความต้องการของตลาดโลก นอกจากนี้ Kaspersky และ Centerm จะใช้โอกาสในการแสดงความสำเร็จในการทำงานร่วมกันแก่ตัวแทนขององค์กร รัฐบาล และชุมชนวิชาการ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และสร้างความต้องการโซลูชันภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์
ในด้านความร่วมมือส่วนหนึ่งนี้ Kaspersky จะจัดหาระบบปฏิบัติการ KasperskyOS และผลิตภัณฑ์และโซลูชันเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ Centerm จะจัดหาแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ (ไคลเอ็นต์แบบบาง แท็บเล็ต แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ผู้ใช้เอ็นด์พ้อยด์อื่นๆ) ให้กับลูกค้าองค์กร ทั้งสองฝ่ายจะมีโอกาสเข้าร่วมในกิจกรรมการตลาดของกันและกันในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์
นายยูจีน แคสเปอร์สกี้ ซีอีโอของแคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความต้องการเรื่องการทำงานระยะไกลเพิ่มขึ้นทั่วโลก พร้อมด้วยตลาดโซลูชันการป้องกันที่กำลังเติบโตเพื่อให้การทำงานระยะไกลนั้นปลอดภัย เราพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันประเภทนี้ตามระบบปฏิบัติการ KasperskyOS หนึ่งในโซลูชันดังกล่าวคือ Kaspersky Secure Remote Workspace ซึ่งรวมถึง Kaspersky Thin Client ซึ่งเป็นไคลเอ็นต์แบบบางเครื่องแรกของโลกที่มีภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ซึ่งไม่ต้องการเครื่องมือป้องกันไวรัสเพิ่มเติม เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้มีศักยภาพในการส่งออกที่ดีเยี่ยม และการเป็นพันธมิตรกับ Centerm ก็ตอกย้ำความเชื่อนี้ ผมหวังว่าด้วยความร่วมมือครั้งนี้ เราจะดำเนินโครงการที่ประสบความสำเร็จเพื่อปกป้องอุปกรณ์ของผู้ใช้ และเราจะก้าวไปอีกขั้นเพื่ออนาคตที่มีภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์"
นายเชง ซู ผู้อำนวยการฝ่ายขายต่างประเทศของเซ็นเทิร์ม กล่าวว่า "Kaspersky และ Centerm ร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับความร่วมมือของเรา และทำให้ลูกค้ามีโซลูชันที่สมบูรณ์ เชื่อถือได้ และปลอดภัยที่สุดสำหรับความต้องการด้านการประมวลผลในปัจจุบัน Centerm เห็นว่านี่เป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าของเรา"
ข้อตกลงระหว่างสองบริษัทมีการลงนามเป็นระยะเวลาสามปี โดยมีโอกาสที่จะขยายเวลาต่อไปหลังจากช่วงเวลานั้น ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ของ Kaspersky ได้ที่ https://os.kaspersky.com/
ที่มา: พิตอน คอมมิวนิเคชั่น
