กรมวิชาการเกษตร โชว์ เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพผลิตอะโวคาโด ผลผลิตสูงกว่าวิธีเกษตรกรเท่าตัว

จันทร์ ๓๑ ตุลาคม ๒๐๒๒ ๑๕:๒๕
กรมวิชาการเกษตร ส่งเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอะโวคาโดสู่เกษตรกร แนะคัดเลือกพันธุ์ดี โดยวิธีขยายพันธุ์แบบเสียบยอด ใช้ชีวภัณฑ์บาซิลลัส ซับทิลิสและไตรโคเดอร์มาคุมโรครากเน่าและโคนเน่า พร้อมกับเก็บเกี่ยวผลแก่ให้สังเกตุใบเลี้ยงที่ขั้วผล การันตีผลผลิตเพิ่มสูงขึ้นกว่ากรรมวิธีของเกษตรกรเท่าตัวแถมมีคุณภาพเพิ่มขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ พร้อมผลักดันเป็นพืชอัตลักษณ์ จ. ตาก
กรมวิชาการเกษตร โชว์ เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพผลิตอะโวคาโด ผลผลิตสูงกว่าวิธีเกษตรกรเท่าตัว

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่เริ่มปลูกในปี 2505 ในเขตภาคเหนือตอนล่าง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก และสถานีทดลองพืชสวนพบพระ กรมวิชาการเกษตร ต่อมามีการกระจายพันธุ์ ส่งเสริม สนับสนุนการปลูกอะโวคาโดเป็นพืชเศรษฐกิจเด่นของจังหวัดตาก โดยมีเป้าหมายการสร้างจังหวัดตาก เป็น "City of Avocado" และผลักดันให้เป็นพืชอัตลักษณ์ของจังหวัด

อย่างไรก็ตาม การผลิตอะโวคาโดของเกษตรกรยังประสบปัญหาด้านการคัดเลือกพันธุ์ดี ผลผลิตด้อยคุณภาพจากต้นที่ปลูกจากเมล็ด ขาดองค์ความรู้ในการขยายพันธุ์ การจัดการพันธุ์ดี เกิดการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช ขาดความรู้ความเข้าใจในการจัดการผลิต การปฏิบัติดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว มีการจัดการสวนไม่ถูกวิธี ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นส่งผลถึงการจำหน่ายที่กำหนดราคาไม่ได้ กรมวิชาการเกษตรจึงแนะนำเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกอะโวคาโดให้แก่เกษตรกร ดังนี้

คัดเลือกพันธุ์ดี โดยวิธีการขยายพันธุ์แบบเสียบยอด คัดเลือกสายต้นที่เหมาะสำหรับเป็นต้นตอพันธุ์ดี จากสายต้นอะโวคาโดที่มีลักษณะดี โดยใช้เกณฑ์การคัดเลือก รสชาติมัน ปริมาณเนื้อมากกว่า 65% เปลือกหนามากกว่า 0.02 เซนติเมตร เป็นที่ต้องการของตลาด และขยายพันธุ์อะโวคาโดพันธุ์ดีที่คัดเลือกได้ หรือเปลี่ยนเป็นพันธุ์การค้า พันธุ์ต่างประเทศที่ตลาดต้องการ ด้วยการเสียบยอดพันธุ์ดีกับต้นตอที่ปลูกจากเมล็ด

สำรวจการระบาด และป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟในอะโวคาโด ใช้สารสไปนีโทแรม อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นสลับกับ สารอิมิดาโคลพลิด อัตรา 8 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร และ ปิโตรเลียมออล์ ตัดแต่งกิ่งอะโวคาโดแบบเปิดกลางซึ่งเป็นวิธีการตัดแต่งกิ่งที่ทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ตัดกิ่งไม่สมบูรณ์ กิ่งแคบ กิ่งเป็นโรค ทำให้ได้รับแสงเต็มที่ กิ่งมีการเจริญเติบโตดี ได้ผลผลิตสูง ควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าโดยใช้ชีวภัณฑ์ที่ผลิตได้จากเชื้อบาซิลลัส ซับทิลิส และเชื้อไตรโคเดอร์มา เชื้อบาซิลลัส ซับทิลิส 5102 สามารถรักษาโรครากเน่าโคนเน่าของอะโวคาโดซึ่งเป็นโรคชนิดเดียวกันที่เกิดกับทุเรียน วิธีการรักษาโดยลอกเปลือกบริเวณที่เป็นโรคและทาด้วยผลิตภัณฑ์ผงเชื้อบาซิลลัส ซับทิลิส 5102 จำนวน 4 ครั้ง รวมทั้งใช้เข็มฉีดเชื้อบาซิลลัส ซับทิลิส 5102 จำนวน 1 ครั้ง และใช้เชื้อไตรโคเดอร์มาราดรอบโคนต้น

การป้องกันกำจัดด้วงหนวดยาวเจาะลำต้น ให้ใช้วิธีผสมผสาน สำรวจการเข้าทำลาย การวางไข่ สังเกตจากขุยไม้ซึ่งเป็นมูลของหนอนที่ขับถ่ายออกมาระหว่างกัดกินในเปลือกไม้ ถ้าพบการระบาด ทำการกำจัดตัวเต็มวัย โดยใช้ไฟส่องจับตอนกลางคืน ใช้ตาข่ายดัก จับตัวเต็มวัยตอนกลางวัน พ่นสารฆ่าแมลง ฉีดพ่นเข้าในรูหนอน และป้องกันกำจัดแมลงวันผลไม้ ตัวหนอนเจาะกัดกินผล โดยดูแลรักษาแปลงปลูกให้สะอาด ตัดวงจรชีวิตและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง แขวนกับดักเมธิลยูจินอลผสมมาลาไธออน 83% อีซี อัตรา 4:1 ใต้ทรงพุ่ม ใช้เหยื่อพิษ และห่อผล

เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกวิธี โดยเก็บเกี่ยวผลแก่ให้สังเกตุใบเลี้ยงที่ขั้วผล เปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเขียว-เหลือง หรือเหลืองแก่ เส้นใบเข้ม มีลวดลายเด่นชัด ขั้วผลเปลี่ยนสีเขียว-เหลือง หรือเหลืองเข้ม เมื่อเปิดขั้วผลจะมีสีเหลืองอ่อนที่รอยต่อของขั้วผลกับผล ผิวผลจะนูนขรุขระเด่นชัด บางพันธุ์สีเขียวเข้มเป็นมัน บางพันธุ์เปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ สีแดงหรือเหลืองมีจุดประสีน้ำตาลตามผิวผล เมื่อสุกผลจะนิ่มหรือเปลี่ยนสี บ่มส่วนมากไม่เกิน 2-5 วัน เมื่อผ่าผล เยื้อหุ้มเมล็ดด้านในเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเมล็ดจะสีน้ำตาลเข้ม บางพันธุ์เมื่อเขย่าผลจะมีเสียงคลอนของเมล็ด นับอายุผล ซึ่งผลจากต้นเดียวกันจะสุกแก่ไม่พร้อมกัน ขึ้นอยู่กับช่วงการผสมดอกและติดลูก การเก็บผลทั้งต้นจึงต้องทยอยเก็บเฉพาะผลแก่ พร้อมกับศึกษาช่วงอายุเก็บเกี่ยวของอะโวคาโดพันธุ์การค้าในแหล่งปลูกต่างๆ ทั้งพื้นที่ราบและพื้นที่สูง รวมถึงการจัดการพันธุ์ปลูกให้ผลผลิตออกตรงตามความต้องการของตลาด

"การใช้เทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีผลผลิตอะโวกาโด สูงถึง 5,000 กิโลกรัมต่อไร่ (25 ต้น/ไร่) ซึ่งสูงกว่ากรรมวิธีเดิมของเกษตรกรที่ให้ผลผลิตเพียง 2,500 กิโลกรัมต่อไร่ รวมทั้งการทำลายของโรครากเน่าโคนเน่า เพลี้ยไฟ และหนอนเจาะลำต้นลดลงมากกว่า 50% นอกจากนี้ผลผลิตยังมีคุณภาพเพิ่มขึ้นมากกว่ากรรมวิธีเกษตรกร 50% ทำให้สามารถจำหน่ายผลผลิตได้ราคา 50-120 บาท/กก. ในขณะที่กรรมวิธีของเกษตรกรจำหน่ายได้ราคา 15-20 บาท/กก. เนื่องจากต้นที่ปลูกจากเมล็ดผลผลิตจะด้อยคุณภาพ ทำให้จำหน่ายผลผลิตได้เพียงบางต้น ซึ่งองค์ความรู้ของกรมวิชาการเกษตรนอกจากกจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นตอบโจทย์ "City of Avocado" ของจังหวัดตากยังสามารถผลักดันให้อะโวคาโดเป็นพืชอัตลักษณ์ของจังหวัดได้ในที่สุด" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

กรมวิชาการเกษตร โชว์ เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพผลิตอะโวคาโด ผลผลิตสูงกว่าวิธีเกษตรกรเท่าตัว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว