"ชาร์คเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารออกมาสู่ตลาด จะต้องมุ่งสร้างสิ่งที่แตกต่าง เพื่อเป็นจุดแข็งสร้างการแข่งขันได้ในระยะยาว พร้อมควรกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจให้ชัดเจน สำหรับแบรนด์ใหม่ที่เริ่มทำตลาดและกำหนดหาช่องทางจำหน่ายสินค้า ไม่อยากให้เน้นขยายช่องทางทำตลาดเฉพาะร้านสะดวกซื้อเท่านั้น เนื่องจากจะมีค่าบริหารจัดการคือ ค่าการตลาดในระดับสูง ดังนั้นหากยังมียอดขายที่ไม่ดีนักหรือมีลูกค้ารู้จักไม่มาก จึงไม่ควรเร่งเข้าร้านค้าสะดวกซื้อ เนื่องจากอาจไม่คุ้มค่าในระยะยาว
"ชาร์คกฤษน์ ศรีชวาลา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟิโก้ กรุ๊ป และ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้มุมมองว่า การทำธุรกิจร้านอาหารที่มีการเปิดแบรนด์ใหม่ส่วนใหญ่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเต็มร้านในช่วงประมาณ 3-6 เดือนแรก ดังนั้นผู้ประกอบการต้องเตรียมแผนงานไว้รองรับ ทั้งการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้วยความสร้างสรรค์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันจะต้องสร้างแบรนด์ดิ้งให้โดดเด่นที่สุด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าให้แก่ลูกค้าจดจำ ส่วนการประเมินมูลค่าของแบรนด์เพื่อเปิดโอกาสให้มีนักลงทุนเข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัทนั้น จะไม่ได้ประเมินจากเพียงทรัพย์สินหรือจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการ แต่นักลงทุนจะมีการพิจารณาจากการสร้าง แบรนด์ให้มีการเติบโต จนสามารถขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ที่มีหลายสาขา ซึ่งในแต่ละสาขาสามารถสร้างผลกำไรได้ดีและเติบโตต่อเนื่อง จะเป็นการสร้างมูลค่าของแบรนด์เพิ่มขึ้นได้หลายเท่าและดึงดูดนักลงทุนอย่างมาก
"ชาร์คหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี จำกัด ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks เน้นย้ำ ผู้ประกอบการควรนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนองค์กรทั้งระบบหลังบ้านและหน้าบ้าน เพื่อสร้างธุรกิจให้พร้อมแข่งขันและเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ส่วนผู้ประกอบการไทยที่กำลังสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาสู่ตลาด ควรเริ่มขยายตลาดไปสู่ออนไลน์ เพื่อทดสอบตลาดและกลุ่มลูกค้าให้การตอบรับผลิตภัณฑ์เป็นอย่างไร จะทำให้สามารถปรับแผนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
"ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ" รองประธานกรรมการอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิทฯ แนะนำผู้ประกอบการไทยที่สร้างธุรกิจและสร้างยอดขายเติบโตได้รวดเร็วจึงมีการเร่งขยายธุรกิจ แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการควรเตรียมการคือ การวางแผนบริหารจัดการบริษัท ทั้งการบริหารคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐานที่คงเดิม มีความเข้าใจโครงสร้างทางการเงินและการบริหารด้านการเงินให้รอบคอบ การบริหารจัดการเรื่องขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ แต่หากบริหารได้ไม่ทันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาว และอีกสิ่งที่สำคัญคือการเข้าใจเรื่องการตลาดและข้อมูลของลูกค้าจะเป็นผลดีต่อการขยายธุรกิจในอนาคต
"ชาร์คประพล มิลินทจินดา" ประธาน คอมมูนิตีมอลล์ พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการไทยที่มีแผนสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการออกมาสู่ตลาดจะต้องสร้างมุ่งหาจุดเด่นมานำเสนอ เพื่อสร้างการจดจำและดึงดูดผู้บริโภค ยกตัวอย่าง สินค้าอาหารที่นำสินค้าเกษตรไปแปรรูปควรเลือกใช้วัตถุดิบที่มีเฉพาะในแต่ละพื้นที่ พร้อมกรรมวิธีในการผลิตที่มีเอกลักษณ์ เพื่อนำเสนอจุดแข็งของสินค้าที่มีความสร้างสรรค์ รวมถึงควรมีการดีไซน์สินค้า เพื่อทำให้สินค้ามีมูลค่าสูงขึ้น และเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้า สำหรับผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจโตต่อเนื่องและเตรียมขยายธุรกิจรอบใหม่ จะต้องมีความเข้าใจในเรื่องการระดมทุนที่มีหลายรูปแบบ เช่น การเลือกขอสินเชื่อรายบุคคล (Personal loan) หรือ การเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น เป็นต้น และพิจารณาให้เหมาะสมกับธุรกิจมากที่สุด
นับว่าเป็นแนวคิดดี ๆ จาก 5 นักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้สร้างธุรกิจ มาร่วมค้นหาคำตอบการทำธุรกิจในยุคใหม่ พร้อมร่วมติดตามการดีลธุรกิจไทยที่กำลังมาแรง ในรายการ "Shark Tank Thailand ซีซั่น 3" ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของรายการ Shark Tank Thailand ได้ที่
Website : https://www.sharktankthailand.com
Youtube : https://www.youtube.com/c/MEDIAtank
Facebook : https://www.facebook.com/sharktankTH
Instagram : https://www.instagram.com/sharktankthailand/
TikTok : https://www.tiktok.com/@sharktankthailand
ที่มา: ชมฉวีวรรณ